วันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2550

"สถาบันกษัตริย์ใหม่" (The New Monarchy) หรือ การเติบโตของ "ระบอบพลังแผ่นดิน"

โดย. สมศักดิ เจียมธีรสกุล


ข้อเสนอพื้นฐานของผมคือ ในระยะประมาณ 1 ทศวรรษเศษที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงอย่างสำคัญในมโนทัศน์ต่อสถาบันกษัตริย์ ก่อนหน้านั้น - ก่อนหน้าทศวรรษ 2530 โดยประมาณ - พระมหากษัตริย์ถูกมองในลักษณะนามธรรมไม่ใช่ในลักษณะเป็นบุคคลจริงๆ คล้ายๆกับที่คนไทยมอง "พระพุทธเจ้า" คือ ไม่ได้มองว่าเป็นแขกคนหนึ่ง (ดูเหมือนนิธิ เอียวศรีวงศ์ จะเคยพูดถึงเรื่องนี้ไว้สักแห่ง แต่ผมจำไม่ได้แน่นอน) ในลักษณะเดียวกัน พระมหากษัตริย์ก่อนทศวรรษ 2530 ก็ไม่ได้ถูกมองในลักษณะเป็นบุคคลจริงๆ แต่เป็นบางอย่างที่มีลักษณะ "นามธรรม" หรือมีลักษณะเป็น "สถาบัน" ความจริงผมไม่ชอบคำนี้นัก เพราะคลุมเครือเกินไป ชวนให้ไขว้เขวได้ แต่ใช้ในที่นี้ เพื่อแทนบางอย่างที่มีลักษณะนามธรรม คือ พระมหากษัตริย์มีลักษณะ "ของสูง", "ต้องห้าม" ที่ไม่สามารถหรือไม่ควรรู้สึก "ใกล้ชิด" ได้จริงๆ

ด้านที่มีลักษณะ "นามธรรม" ของมโนทัศน์เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ดังกล่าว ยังแสดงออกที่ประเด็นที่แม้แต่นักวิชาการที่อภิปรายเรื่องสถาบันกษัตริย์ปัจจุบันเองก็มักจะมองข้ามไป คือ ก่อนทศวรรษ 2530 (โดยประมาณ) อุดมการณ์ลักษณะ "กษัตริย์นิยม" มีลักษณะที่ผมขอเรียกว่า embedded ("ฝังเป็นส่วนหนึ่ง") ของอุดมการณ์เรื่อง "ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์" มากกว่าจะเป็นลักษณะแยกออกมาเป็น “ กษัตริย์ -นิยม” โดยเฉพาะ อย่างในปัจจุบัน เมื่อพวกกระทิงแดง นวพล และนักเขียนฝ่ายขวา ชู "สถาบันพระมหากษัตริย์" เพื่อเล่นงานขบวนการนักศึกษาในช่วง 14 ถึง 6 ตุลา นั้น ไม่ใช่เป็นการ ชู "พ่อหลวง" (องค์พระมหากษัตริย์) แบบขบวนการแอนตี้ทักษิณหรือ "ปรากฏการณ์เสื้อเหลือง" แต่เป็นการชู "พระมหากษัตริย์" ในฐานะส่วนหนึ่งของอุดมการณ์สถานภาพเดิม (status quo ideology) เรื่อง "ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์" แม้แต่การพูดเรื่อง "หมิ่น" ในสมัย 14 ตุลา ถึง 6 ตุลา ก็มีลักษณะนามธรรมเช่นนี้ (และนี่เป็นเหตุผลที่อธิบายลักษณะ paradox อย่างหนึ่ง เกี่ยวกับ "คดีหมิ่น" คือ ในสมัยการต่อสู้ทางการเมืองแหลมคมตอนนั้น กลับมี "คดีหมิ่น" น้อยมาก ขณะที่ในการต่อสู้ในปัจจุบัน กลับเต็มไปด้วยการกล่าวหาเรื่อง "หมิ่น") ข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งที่เป็นข้อสนับสนุนข้อเสนอของผมในเรื่องนี้ (ที่หลายคนมองข้าม) คือ เป็นไปไม่ได้ที่กลุ่มพลังฝ่ายขวาดังกล่าว (หรือ "สังคม" โดยทั่วไป) จะมอง "สถาบันพระมหากษัตริย์" ในลักษณะตัวบุคคล เพราะก่อนทศวรรษ 2520-2530 พระมหากษัตริย์, พระราชินี พระเจ้าลูกยาเธอ และ พระเจ้าลูกเธอ ล้วนถูกมองแบบ "รวม" กล่าวคือ "พระราชกรณียกิจ" รวมไปถึง "พระราชจริยวัตร", "พระบุคคลิกภาพ" ต่างๆ ของแต่ละพระองค์ (อย่างแยกจากกัน) เป็นสิ่งที่ยังไม่ได้ปรากฏออกมาอย่างเด่นชัดในขณะนั้น ในความเห็นของผม เรื่องนี้มีความสำคัญอย่างมากต่อการเข้าใจความเปลี่ยนแปลงของมโนทัศน์เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ ผมอยากเสนอให้ลองนึกถึงกรณีที่สำคัญยิ่งกรณีหนึ่งของการเมืองในสมัย 14 ตุลา - 6 ตุลา คือ กรณีภาพถ่ายละคอนของนักศึกษาที่เป็น “ชนวน” ให้เกิดเหตุการณ์ 6 ตุลา ผมขอเสนอว่า กรณีอย่างเดียวกัน (ข้อกล่าวหาเรื่อง “หมิ่นฯ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชบ ”) หากเกิดขึ้นในยุคหลังทศวรรษ 2530 (ยุคปัจจุบัน) ไม่น่าจะนำมาซึ่งปฏิกิริยาอย่างเดียวกันได้ เพราะในบรรดาปัจจัยต่างๆที่ประกอบขึ้นเป็นความแตกต่างของแต่ละยุคสมัย ปัจจัยที่สำคัญมากอย่างหนึ่ง คือประเด็นที่ผมกำลังพูดถึงนี้ คือการมองสถาบันกษัตริย์หรือพระราชกรณียกิจของพระราชวงศ์แต่ละพระองค์อย่าง “แยกแยะ” ซึ่งเป็นสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น ในช่วงทศวรรษ 2520 เท่านั้น





"ภาพตัวอย่างประกอบข้อเขียน"


เหล่านี้คือ ภาพพระบรมฉายาลักษณ์ ทีถ่ายจากทีวี เป็นรายการพิเศษออกอากาศเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2525 รายการพิเศษดังกล่าว เพื่อแสดงให้ประชาชนเห็นว่าในหลวงทรงหายประชวร สามารถเสด็จพระราชดำเนินออกพระวรกาย ภายในสวนจิตรลดาได้แล้ว นอกจากสมเด็จพระบรมฯ และสมเด็จพระเทพฯแล้ว ยังมี พลเอกเปรม นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ร่วมโดยเสด็จออกพระวรกายด้วย ในตอนหนึ่งของรายการทีวี ได้แสดงภาพที่ในหลวงทรงพระราชทานดอกบัวให้พลเอกเปรม ...



ใครที่สนใจ ลองหาหนังสือ KNS หน้า 283 อ่านพลางๆก่อน แต่คำบรรยายของ Handley ซึ่ง "ตีความ" นัยยะแฝงเสียมากมาย มีปัญหาบางอย่าง ที่ผมจะอภิปรายต่อไป พูดอย่างสั้นๆในที่นี้ คือ ภาพดังกล่าว มีแต่ในทีวี แต่ในหนังสือพิมพ์วันรุ่งขึ้น แทบทุกฉบับ ไม่มีฉบับใด รายงาน (เรื่องพระราชทานดอกบัวให้เปรม) เลย! มีเพียง The Nation ฉบับเดียวที่บรรยาย (และให้ความสำคัญ) (แม้แต่ ฺBangkok Post ก็ไม่มี (ดังนั้น Handley ต้องเอาข้อมูลมาจาก The Nation อย่างแน่นอน แม้ว่าจะเขาไม่ได้ทำเชิงอรรถไว้ - มีคนบอกว่า เชิงอรรถหนังสือเล่มนี้ถูกตัดออกไปมาก เพื่อให้หนังสือไม่ดูวิชาการมากไป เพื่อให้สำหรับ general reader - อันนี้ผมอ่านมาจาก "นวมณฑล" หรืออย่างไรนี่แหละ)





...............................................

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

พวกคุณนี่มันสัตว์นรกจริงๆไปตายซะหรือไปลงนรกกับพวกสัตว์นรก รศ113 พวกทักษิณ ไอ้พวกเหี้ยเลวระยำขอสาปแช่งพวกมึงทั้งโครต