วันศุกร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

อย่าหยุดแค่นายสมัคร : ธงชัย วินิจจะกูล


ผมติดตามกรณีนายสมัคร สุนทรเวช พูดเกี่ยวกับ 6 ตุลาด้วยความรู้สึกเซ็ง เศร้า และขยะแขยง

นายสมัครพูดจาไม่รับผิดชอบ บิดเบือนข้อเท็จจริงพื้นฐานที่ไม่ได้เกี่ยวกับการตีความหรือขึ้นต่ออุดมการณ์ใดๆ เลยสักนิด นายสมัครแกล้งลืมหรืออาจพร่ำบอกโกหกตัวเองตลอด 30 ปีที่ผ่านมา ว่าเหตุการณ์ 6 ตุลาเป็นเรื่องเล็กๆ ไม่สำคัญอะไร เพราะเขารู้ว่าเป็นรอยด่างอัปลักษณ์ในประวัติของเขาที่หลงตัวเองว่า เก่งดีงามกว่าคนอื่น

การจงใจทำให้ 6 ตุลา กลายเป็นเรื่องเล็กๆ ที่ไม่มีความสำคัญใดๆ ต่อสังคมการเมืองไทยเป็นเรื่องน่าเศร้า น่าขยะแขยง เป็นการปฏิเสธความสำคัญของทุกๆ ชีวิตที่ดับสูญไปฉับพลันในวันนั้น ไร้ความเคารพต่อพวกเขา ครอบครัวของเขา และผู้ได้รับผลกระทบเสียหายอีกมากมาย จากเหตุการณ์ 6 ตุลา

เราต้องประณามนายสมัครและต่อสู้กับการบิดเบือนลบเลือนประวัติศาสตร์อย่างน่าขยะแขยงเช่นนั้น

แต่นายสมัครไม่ใช่คนแรกหรือคนเดียวที่พยายามทำเช่นนี้ตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องก่อกรรมทำเข็ญในโศกนาฏกรรมดังกล่าว ทั้งระดับผู้ปฏิบัติการรายย่อยๆ ตลอดถึงผู้บงการประสานงานวางแผนระดับสูงต่างทำอย่างเดียวกับนายสมัครทั้งสิ้น

สังคมไทยโดยรวมก็ทำไม่ต่างจากนายสมัครเท่าไรนัก คือ แกล้งลืมหรืออาจพร่ำบอกโกหกตัวเองตลอด 30 ปีที่ผ่านมาว่า เหตุการณ์ 6 ตุลาเป็นเรื่องเล็กๆ ไม่สำคัญอะไร เพราะสังคมไทยรู้ว่าเป็นรอยด่างอัปลักษณ์ในประวัติของสังคมไทยที่หลงตัวเองว่า ดีงามสูงส่งวิเศษกว่าสังคมอื่น สังคมไทยไม่เคยตอบรับเสียงเรียกร้องให้ทำการสะสางความจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ 6 ตุลา ไม่เคยพยายามให้คำตอบกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต ไม่เคยคิดถึงความยุติธรรม ไม่เคยเอาจริงเอาจังกับประวัติศาสตร์

การบิดเบือนไม่รับผิดชอบของนายสมัครไม่ใช่กรณีพิเศษ แต่เป็นตัวแทนของผู้คนทั่วไปในสังคมไทย รวมทั้งปัญญาชนนักหนังสือพิมพ์นักเคลื่อนไหวหลายคน ที่กำลังวิจารณ์นายสมัครอย่างเอาเป็นเอาตายด้วย

นายสมัครปฏิเสธไม่ได้ว่า บทบาทของตนก่อนและหลัง 6 ตุลาใหม่ๆ มีส่วนสร้างและกระพือความเกลียดชังด้วยการโฆษณาชวนเชื่อให้ร้ายป้ายสีฝ่ายตรงข้ามกับตน (ทั้งนักศึกษาฝ่ายซ้ายและคู่ปรับของตนในพรรคประชาธิปัตย์) เป็นบทบาททำนองเดียวกับวิทยุยานเกราะ ทมยันตี นักการเมือง และนักพูดนักจัดรายการวิทยุอีกหลายคนในระดับต่างๆ กันไป ความเกลียดชังจนเห็นฝ่ายตรงข้ามเป็นปีศาจที่ต้องกำจัดทำลายเป็นปัจจัยหนึ่งของความโหดเหี้ยมเมื่อ 6 ตุลา

กระบอกเสียงของฝ่ายขวาเหล่านี้เป็น "เป้า" ที่เห็นได้ชัดโดยไม่ต้องคิดวิเคราะห์อะไรเลย แต่หากใครคิดว่า 6 ตุลาเกิดขึ้น เพราะคนพวกนี้แค่นั้น ต้องนับว่าตื้นเขินอย่างเหลือเชื่อ

ผู้มีบทบาทอย่างสำคัญ ทั้งในการสร้างความเกลียดชัง จัดตั้งกลุ่มฝ่ายขวา วางแผน สั่งการ จนเกิดการใช้ความรุนแรงถึงชีวิต กลับมักเป็นคนที่ไม่ออกมาแสดงตัวโผงผาง หลายคนทำตัวดีเลิศประเสริฐศรี เป็นผู้นำเรียกหาคุณธรรม จนผู้คนนับหน้าถือตากันทั้งบ้านเมือง

ปัญญาชนนักหนังสือพิมพ์ นักเคลื่อนไหวการเมืองทั้งหลายไม่รู้ข้อนี้ หรือแกล้งไม่รู้กันแน่ จึงไม่เคยหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาสอบถามตัวการผู้มีบทบาทอย่างสำคัญเลย แถมหลายคนกลับร่วมสังวาสทางการเมืองกับคนเหล่านี้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยไม่เคยรู้สึกตะขิดตะขวงใจอย่างใด ทำตัวน่ารังเกียจไม่ต่างจากพวกที่เขาเรียกว่า ตุลาชิน ที่ร่วมมือกับนายสมัครในขณะนี้

หากต้องการชำระสะสาง 6 ตุลาจริง กรุณาอย่าหยุดแค่ประณามนายสมัคร แต่ขอให้สืบสาว ตั้งคำถามและประณามอีกหลายคน ที่ยังคงมีบทบาทอำนาจทางการเมืองสูงเช่นกัน อาทิเช่น


1. นายพันฝ่ายข่าวทหาร ซึ่งต่อมาเป็นนายพลก่อนลาออกจากราชการ เขาทำหน้าที่ประสานงานกลุ่มฝ่ายขวาเพื่อต่อต้านนักศึกษา มีบทบาทสูงในการต่อต้านนักศึกษาที่เคลื่อนไหวให้ถอนฐานทัพอเมริกัน เป็นผู้จัดการชุมนุมฝ่ายขวาครั้งสำคัญที่สนามไชย เมื่อปี 2519 เป็นคนสำคัญในการชุมนุมกลุ่มฝ่ายขวา ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า เมื่อเช้าวันที่ 6 ตุลา เขามีบทบาทสูงมากในพันธมิตรต่อต้านทักษิณ และเพื่อการรัฐประหารที่ผ่านมา

ถ้าหากบทบาทของคนๆ นี้ไม่ชัดเจนเท่านายสมัคร ก็น่าที่จะสืบสวนหาความกระจ่าง อย่ามักง่ายเอาแค่เป้าที่เห็นง่ายๆ ทั้งๆ ที่บทบาทประสานงานกลุ่มฝ่ายขวาน่าจะสำคัญต่อ 6 ตุลาไม่น้อยกว่านายสมัคร


2. นายพลที่มีบทบาทสำคัญต่อการปราบปรามคอมมิวนิสต์สมัยนั้น เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการต่อต้านคอมมิวนิสต์ด้วยการจัดตั้งกลุ่มขบวนการฝ่ายขวาขึ้นมา รวมทั้งมอบหมายให้เพื่อนสนิทของเขาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงจัดตั้งกลุ่มกระทิงแดง และให้นายพันคนสนิทของเขา (ในข้อ 1) ประสานงานกับอีกหลายกลุ่ม นายพลคนนี้ต่อมาเป็นใหญ่เป็นโตมาก ทั้งในรัฐบาลและอำนาจแฝงเหนือรัฐบาล ฝ่ายขวาที่ถูกเขาใช้แล้วทิ้งให้ฉายาเขาว่าเป็น "นักฆ่าฯ" ในขณะที่สังคมยกย่องให้เขาเป็นผู้มีคุณธรรมสูงยอดคนหนึ่ง

ปัญญาชนนักหนังสือพิมพ์ที่แคร์กับ 6 ตุลามากในการวิจารณ์นายสมัคร กลับเชิดชูปกป้อง "นักฆ่าฯ" ผู้นี้อย่างสุดใจเมื่อไม่นานมานี้เอง หากบทบาทของเขาไม่ชัดเจนเท่านายสมัคร ก็น่าที่จะทำการบ้านและลงแรงสืบสวนเสียบ้าง แทนที่จะพอใจแค่การโจมตี เป้าที่เห็นชัดๆ แต่กลับร่วมสังวาสทางการเมืองกับผู้มีบทบาทในการก่อความรุนแรงยิ่งกว่านายสมัครเสียอีก


3. ใครสั่งตำรวจตระเวนชายแดน ณ 02.00 น. ของวันที่ 6 ตุลา ให้เคลื่อนกำลังจากหัวหิน เพื่อมาถึงธรรมศาสตร์ทันเวลาลงมือ ณ 06.00 น. พอดี ผู้สั่งต้องรู้แผนการหรือเกี่ยวข้องกับผู้รู้แผนการว่าจะเกิดอะไรในตอนเช้า จนบัดนี้ดูเหมือนว่าความจริงข้อนี้เป็นความลับที่สุดข้อหนึ่ง แต่กลับไม่มีปัญญาชนนักหนังสือพิมพ์สืบสาวให้ถึงต้นตอของเรื่องนี้เลย เพราะความจริงข้อนี้อาจนำไปสู่ตัวการสำคัญที่พวกเขาพยายามทำเป็นไม่รู้และไม่ต้องการรับรู้


4. ในการปลุกระดมกระพือความเกลียดชัง มีหลายฝ่ายหลายกลุ่มที่มีบทบาทไม่น้อยกว่านายสมัครเลย ที่สำคัญมากๆ ได้แก่ วิทยุยานเกราะ และลูกเสือชาวบ้าน จนบัดนี้ ไม่เคยมีการสอบสวนหาข้อเท็จจริงว่า ใครมีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้คลื่นวิทยุของทหารทั่วประเทศ สร้างความเกลียดชังถึงขนาดนั้น ใครมีส่วนทำให้ลูกเสือชาวบ้านกลายเป็นเครื่องมือทางการเมืองอย่างอันตรายขนาดนั้น ทั้งสองกลุ่มเป็นกลไกที่ต้องอาศัยผู้มีอำนาจร่วมมือกันอย่างกว้างขวาง ต้องมีการประสานงานวางแผน และทำงานเป็นระบบกว่านายสมัครหลายเท่านัก

ถ้าหากต้องการชำระสะสาง 6 ตุลาจริง เพราะต้องการความจริงและความยุติธรรม เพื่อเชิดชูการเสียสละของวีรชน 6 ตุลาจริง กรุณาอย่าหยุดแค่นายสมัคร แต่กรุณาสืบสาวและตั้งคำถามกับคนที่มีบทบาททำให้คนตายที่สำคัญกว่าปากของนายสมัคร เอาให้ถึงตัวการสำคัญๆ มากเท่าไรก็ยิ่งดี และอย่าร่วมสังวาสทางการเมืองกับคนพวกนี้ ซึ่งวางแผน บงการ และอยู่เบื้องหลังอาชญากรรมคราวนั้น

การจำกัดโจมตีแค่เป้าที่เห็นชัดๆ แต่ไม่พูดถึงตัวการสำคัญๆ อาจช่วยให้ปัญญาชนนักหนังสือพิมพ์เหล่านี้ปลอบตัวเองได้ว่า ตนกำลังทำเพื่อ 6 ตุลา ทั้งๆ ที่เอาเข้าจริงเป็นการหลอกตัวเอง และหลอกสังคมไทยต่อไปเรื่อยๆ

หากจงใจเล่นงานแค่นายสมัครเพื่อผลทางการเมืองขณะนี้ แต่กลับร่วมสังวาสทางการเมืองกับผู้มีบทบาทสำคัญในการสร้างความรุนแรงเมื่อ 6 ตุลา ก็ต้องนับว่าเป็นการโกหกแหกตาประชาชนแค่นั้นเอง เป็นการฉวยโอกาสใช้ 6 ตุลาเป็นแค่เครื่องมือทางการเมืองอย่างมักง่าย ไม่ได้เคารพผู้เสียชีวิตเมื่อ 6 ตุลาเลยแม้แต่น้อย

การใช้ 6 ตุลาเป็นเครื่องมือในวันนี้ เพื่อสร้างประโยชน์ทางการเมืองแก่กลุ่มการเมืองที่วางแผน บงการ และอยู่เบื้องหลังอาชญากรรม 6 ตุลา เท่ากับเป็นการทำร้ายผู้เสียสละ เมื่อ 6 ตุลาซ้ำอีกครั้ง

เป็นการสังหารวีรชนซ้ำอีกครั้งอย่างน่าขยะแขยง
น่าทุเรศที่สุด

ดูเอาเองก็แล้วกันว่า ใครกำลังทำเพื่อความความจริง ความยุติธรรม และเพื่อวีรชน 6 ตุลา ใครกำลังฉวยโอกาสทำร้ายวีรชนซ้ำอีกครั้ง



ธงชัย วินิจจะกูล

ตีพิมพ์ครั้งแรก กรุงเทพธุรกิจ 16 กุมภาพันธ์ 2551


อ่านประกอบ
ธงชัย วินิจจะกูล : ความทรงจำ ภาพสะท้อนและความเงียบในหมู่ฝ่ายขวาหลังการสังหารหมู่ 6 ตุลา


ที่มา : เว็บบอร์ดฟ้าเดียวกัน : สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน : ธงชัย วินิจจะกูล : อย่าหยุดแค่นายสมัคร

ไม่มีความคิดเห็น: