วันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2551

เรื่องของชาวบ้านกับคนทรงเจ้าในหมู่บ้านแห่งหนึ่ึี่ง


หมู่บ้านแห่งหนึ่ง

มีเจ้าพ่อคนทรงที่ชาวบ้านให้ความนับถือ


ทุกๆวันจะมีของที่ชาวบ้านเอามาเซ่นไหว้มาถวายให้เจ้าพ่อไม่ขาดสาย เจ้าพ่อทำหน้าที่ เข้าทรง ทำน้ำมนต์ ดูดวง ปลุกเสก สะเดาะเคราะห์ ดูฤกษ์ยาม ขึ้นบ้านใหม่ไปทำพิธี ไปเจิม ไปตัดริบบิ้น กดปุ่ม วางศิลา ยกช่อฟ้า...

เจ้าพ่อศักดิ์สิทธิ์มากในความเชื่อของชาวบ้าน เจ้าพ่อจึงมีงานพิธีมากมายล้นมือ จนต้องเลือกรับแต่งานสำคัญๆ เจ้าพ่อจึงเป็นผู้นำและศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านมาตลอด ด้วยความศักด์ิสิทธิและอิทธิฤทธิ์ที่บอกเล่ากันเอง เจ้าพ่อจึงมีลูกศิษย์ลูกหามากมายและอยู่รอบตัวเจ้าพ่อ ด้วยความที่ลูกศิษย์เจ้าพ่อมีมากมายหนาแน่น บางทีลูกศิษย์ก็ขัดแย้งกระทบกระทั่งกันเอง เพราะขัดผลประโยชน์..

เจ้าพ่อจึงต้องจัดระเบียบอาศรมโดยแบ่งให้ลูกศิษย์กันดูแลเป็นสายตามหน้าที่ เช่น ดูแลของเซ่นไหว้ก็กลุ่มหนึ่ง ดูแสถานที่ จัดคิวคนเข้าพบ รับกิจนิมนต์ก็กลุ่มหนึ่ง ดูแลผลประโยชน์ร้านขายของและรถเข็นบริเวณหน้าอาศรมก็กลุ่มหนึ่ง ดูแลการเงินทำบัญชีก็กลุ่มหนึ่ง.... พิมพ์เอกสารทำเครื่องรางของขลังก็กลุ่มหนึ่ง แบ่งหน้าที่กันชัดเจน

ทั้งอาศรม ทั้งเจ้าพ่อและลูกศิษย์ก็อยู่กันอย่างสงบบ้างไม่สงบบ้าง บางทีลูกศิษยก็ขัดใจกัน พอขัดใจมากๆ ก็ลากปืนมายิงกันเอง สุดท้ายเจ้าพ่อก็ต้องมาเคลียร์ให้ทุกที (แต่หลังจากยิงกันเสร็จแล้ว)

แต่ถึงอย่างไรอาศรมก็ยังอยู่คู่กับความเชื่อในหมู่บ้านมาได้ด้วยดี


จนมาวันหนึ่ง

ผู้ใหญ่บ้านคนเก่าหมดวาระ ผู้ใหญ่บ้านคนใหม่ก็เข้ามา

ผู้ใหญ่บ้านคนใหม่ที่ชาวบ้านเลือกมาเป็นที่เด่นดังและได้รับความนิยมจากชาวบ้านด้วยการเอาสิ่งใหม ่ๆ มาให้ชาวบ้านได้ตื่นเต้นกันตลอด อินเตอร์เน็ต ตู้ยา โครงการผ่อนรถไถนา ปุ๋ยราคาถูก ทุนให้ลูกไปเรียนในตัวเมือง ขุดคลองใหม่ ทำถนน ฯลฯ พอเวลานานไป ผลงานผู้ใหญ่บ้านจึงได้รับความนิยมและเป็นที่รักและชื่นชมของลูกบ้านและได้รับเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้านอีกสมัย

เพราะความฮอตของผู้ใหญ่ ทำให้เจ้าพ่อเดือดร้อน

ของไหว้น้อยลง คนก็เลยเริ่มไม่ค่อยเข้าอาศรม เพราะคนเริ่มไม่ค่อยมีความทุกข์ และไม่ค่อยเห็นความสำคัญของที่พึ่งทางใจ แถมชาวบ้านยังเลิกพิธีบางอย่าง เช่น แห่นางแมวเพราะน้ำเข้าถึงหมู่บ้านเพียงพอโดยไม่ต้องรอฝน ยิ่งนานไป จึงไม่ค่อยมีใครอัญเชิญเจ้าพ่อไปเปิดงานทำพิธีกรรมบริกรรมคาถาต่าง ๆ

อาศรมเริ่มเงียบ ร้านรวงหน้าอาศรมก็เลิกขายของเพราะไม่ค่อยมีคนมา เจ้าพ่อเริ่มเดือดร้อนเพราะไม่ค่อยมีคนเห็นความสำคัญของตัวเอง แม้แต่ลูกศิษย์ลูกหาก็เริ่มเครียด เงินทองขาดมือ ลูกศิษย์ลูกหาบางส่วนเริ่มจากลาไปทำมาหากินอย่างอื่น อิทธิฤทธิ์ของเจ้าพ่อช่วยกู้สถานการณ์อะไรไม่ได้เลย

เมื่อคนในหมู่บ้านมีความสุข จึงไม่ค่อยมีใครเห็นความสำคัญของศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านอย่างเจ้าพ่อ ลูกศิษย์ลูกหาเริ่มเครียดที่ขาดรายได้ เจ้าพ่อก็เครียดเช่นกันที่ชาวบ้านหายหน้าหายตาไม่ค่อยเข้าอาศรม

ในที่สุด ลูกศิษย์ลูกหาจึงทนไม่ไหว เพื่อกอบกู้สถานการณ์ก่อนที่อาศรมจะหมดความสำคัญ บรรดาลูกศิษย์จึงรวมหัววางแผนและออกมาป่าวประกาศใส่ร้ายผู้ใหญ่บ้านว่าเป็นคนสร้างภาพบังหน้า เบื้องหลังเป็นคนโกหก คดโกง ชอบหาผลประโยชน์จากหมู่บ้าน ไม่ยอมเสียค่าส่วนกลาง เอาที่ดินลานหน้าหมู่บ้านของส่วนรวมไปเปิดตลาดนัดให้พรรคพวกเช่า

ข้อกล่าวหาสารพัด หลานคนเริ่มเชื่อ คล้อยตาม และสงสัยในตัวผู้ใหญ่บ้าน จนเกิดการขับไล่ผู้ใหญ่บ้านภายใต้การยุแหย่ของลูกศิษย์ ชาวบ้านแตกความสามัคคีกันอย่างรุนแรง ชาวบ้านบางส่วนรักผู้ใหญ่บ้าน บางส่วนเกลียดผู้ใหญ่บ้าน บางทีก็ตีกันตามงานต่าง ๆ ที่ผู้ใหญ่บ้านไปปรากฏตัว

ชาวบ้านแตกแยก ไร้ความสามัคคี หลายบ้านมีความทุกข์ มีบางคนที่หวังดีต่อหมู่บ้าน ก็ไปตั้งวงปรึกษากันเพื่อหาทางออก ลุกศิษย์ที่อยู่เบื้องหลังได้ที ก็บอกให้ชาวบ้านไปปรึกษาเจ้าพ่อ และให้เอาเจ้าพ่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ

ในระหว่างที่คนในหมู่บ้านยังขัดแย้งในเรื่องของความชอบธรรมของผู้ใหญ่บ้าน หลายคนจึงเริ่มหันหน้ากลับเข้าหาอาศรม เพื่อให้เจ้าพ่อนั่งทางในทำนายเหตุุการณ์ ทำพิธีต่อชะตาหมู่บ้าน สะเดาะเคราะห์ ฯลฯ

เมื่อหมู่บ้านเกิดอาเพท อาศรมก็คึกคัก เจ้าพ่อและลูกศิษย์ก็ยินดีปรีดา

สุดท้าย กลุ่มนักเลงหัวไม้ จิ๊กโก๋ประจำหมู่บ้าน จึงร่วมมือกับลูกศิษย์ของเจ้าพ่อและอ้างว่าผู้ใหญ่บ้านคือสาเหตุของอาเพทและความขัดแย้งทั้งหมดของหมู่บ้าน หลังจากนั้นก็พากันยกพวกไปขับไล่ผู้ใหญ่บ้านให้ออกไปนอกหมู่บ้านและล็อคบ้านไม่ให้เข้ามา

พอขับไล่ผู้ใหญ่บ้านไปแล้ว พวกนักเลงหัวไม้ จิ๊กโก๋และลูกศิษย์เจ้าพ่อ ก็แต่งตั้งผู้ใหญ่บ้านชั่วคราวมาแทน โดยเลือกเอาจากลูกศิษย์ในอาศรมเจ้าพ่อ เจ้าพ่อคนทรง จึงกลับมาศักดิ์สิทธิ์และได้รับความสำคัญอีกครั้งหนึ่งจากชาวบ้าน ท่ามกลางความแคลงใจของชาวบ้านอีกกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยและเชื่อว่าเจ้าพ่ออยู่เบื้องหลังเรื่องชั่วช้าทั้งหมด

แต่... เมื่อชาวบ้านคนใดออกมาแสดงความสงสัยหรือพาดพิง หรือตำหนิต่อว่าพฤติกรรมของเจ้าพ่อที่ไม่ค่อยเ็ป็นกลาง เมื่อนั้น คนพูดก็จะโดนข้อหาลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ บังอาจลบหลู่เจ้าพ่อจากบรรดาลูกศิษย์และชาวบ้านที่ยังคลั่งเจ้าพ่อโดยทันที จนหมดโอกาสทำมาหากิน

และแล้ว ในที่สุด

่ความงมงายก็กลับมาสู่หมู่บ้านอีกครั้งหนึ่่ง

ท่ามกลางความผาสุขของเจ้าพ่อและลูกศิษย์ทั้งอาศรมต่อไป...


ปล.
ไม่ทราบว่า
พวกท่านที่อ่านจบเคยได้ยินเรื่องราวในทำนองนี้บ้างไหมครับ ? ...


โดย : เจมส์TSCB



เพิ่มเติม :

แนะนำหนังไทยเรื่องหนึ่งครับน่าดูมาก
นำแสดง โดย ปิยะ ตระกูลราษฎร์

ชื่อ "เทพเจ้าบ้านบางปูน" (2523)
ยังมี CD ขายอยู่ตามคลองถมหรือสั่งซื้อตามอินเตอร์เนตก็ได้


เรื่องย่อๆ ก็คือว่าเจ้าพ่อบ้านบางปูนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพผ่านร่างทรงชื่อตาคล้าว แรกๆชาวบ้านก็อยู่กันอย่างมีความสุขแต่ต่อมาร่างทรงบอกว่าเจ้าพ่อบอกจะมีอาเพศ ขอให้ชาวบ้านย้ายออกไปทำกินที่อื่น และมีเหตุการณ์แปลกๆ ตามมาเช่นเป็ดตายยกเล้ามีคนบอกว่าเห็นเสือเจ้าพ่อมาแอบกิน ฯลฯต่อมามีชาวบ้านชื่อนายไม้ไม่เชื่อ ด่าท้าทายเจ้าพ่อกลางสำนักทรงต่อจากนั้นก็นัดกันกับพรรคพวกจะไปล่าเสือโดยซุ่มอยู่ทั้งคืนแต่ไม่เจอ พอใกล้รุ่งสางแยกย้ายกันกลับนายไม้ได้ให้ปืนเพื่อนไปด้วยเพื่อป้องกันตัวและเดินกลับบ้าน ทันใดนั้นเสือก็โผล่มาขย้ำนายไม้ซมซานกลับไปตายที่บ้านโดยลำดวนลูกสาวมาเห็นเข้าและนายไม้ได้เล่าความจริงก่อนตายให้ฟังว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันเป็นฝีมือของคนไม่ใช่เจ้าที่ไหน

ในงานวันศพนายไม้ ตาคล้าวไปร่วมงานด้วย ลำดวนลูกสาวได้ลบหลู่ ด่ากระทบกระเทียบเจ้าพ่อต่อหน้าตาคล้าวร่างทรงในงานศพ และต่อว่าตาคล้าวต่อหน้าลูกชายตาคล้าวซึ่งเป็นแฟนของตนเองว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่ใช่ฝีมือเจ้าพ่อที่ไหนแต่เป็นฝีมือตาคล้าวพ่อนายกล้าเองต่างหาก นายกล้าโมโหแต่ก็เก็บความสงสัยไว้ไปถามตาคล้าวพ่อตนเอง ตาคล้าวได้แสดงพิรุธต่อคำถามลูกชายทำให้นายกล้าสงสัยพ่อตนเองมากยิ่งขึ้น

วันหนึ่งลำดวน กำลังไปตรวจตราเป็ดไก่ในเล้าตอนกลางคืน และเห็นเสือกำลังวิ่งฝ่าความมืดมาหาตนจึงหลบเข้าบ้านพร้อมกับยิงปืนใส่จนเสือตายในเวลานั้น นายกล้าสังหรณ์ใจว่าอาจเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับแฟนตนที่ไปแฉโพยเจ้าพ่อเข้า จึงไปที่บ้านและปรากฎว่าเกิดเรื่องจริงๆจึงไปอยู่เป็นเพื่อนลำดวนทั้งคืน

จนรุ่งเช้านายกล้าเดินกลับบ้าน จนถึงใต้ถุนบ้านได้ยินเสียงคนคุยกันปรากฎว่าเป็นเสียงของ เสี่ยเล็กคุยกับนายคล้าวร่างทรงพ่อของตนว่าชาวบ้านเชื่อเรื่องอาเพศ ที่จะเกิดขึ้นในหมูบ้านและมีแนวโน้มที่จะย้ายออกยกเว้นครอบครัวนายไม้ซึ่งตายไป และยังเหลือลำดวนลูกสาวที่หัวแข็งอยู่ เสี่ยเล็กบอกจะจัดการเองซะเพราะเธอได้ฆ่าเสือของตนตาย หมดเธอแผนฮุบที่ดินทำกินชาวบ้านจะได้สำเร็จ และเสี่ยเล็กจะทำกำไรได้จากการที่รัฐบาลมีโครงการจะตัดถนนผ่านหมู่บ้านบางปูน พอดีลูกสมุนเสี่ยเล็กมาเห็นนายกล้าแอบฟังจึงซ้อมจนน่วมและพ่อมาเห็นลูกชายเข้าจึงให้จับมัดไว้เพราะกลัวเอาเรื่องไปบอกลำดวนแฟนสาว แล้วบอกว่าที่พ่อทำไปทั้งหมดเพราะว่ารักนายกล้าลูกชายของตน

วันหนึ่งมีการเฉลิมฉลองทำบุญศาลเจ้าพ่อ โดยเป็นเจ้าภาพ มีมหรสพสมโภชน์ ลิเก ละครลิง ฯลฯให้ชาวบ้านได้เพลิดเพลิน แต่ลำดวนไม่สนใจไปร่วมงานเฝ้าบ้านอยู่ตามลำพังกับแม่ ทันใดนั้นก็มีลูกสมุนเสี่ยเล็กบุกเข้าบ้านมาฆ่าแม่และกำลังจะฆ่าเธอได้สู้สุดฤทธิ์แต่ไม่สามารถต้านทางด้านจึงถูกฆ่าตายตามนายกล้าซึ่งหลุดจากเชือกมัดมาได้วิ่งมาดูปรากฏว่าลำดวนสิ้นใจแล้ว จึงอุ้มศพมามากลางงานฉลองทำบุญศาลเจ้าพ่อ ซึ่งเวลานั้นเสี่ยเล็กกำลังพูดกล่าวเปิดงานบนเวทีอยู่ นายกล้าแฉให้ชาวบ้านรู้ว่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นเสี่ยเล็กเป็นคนอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น

ตนตาสว่างแล้ว แต่คนอื่นยังมืดบอดอยู่เสี่ยเล็กลงมาจากเวทีและได้ยิงนายกล้า ตายต่อหน้าคนทั้งหมู่บ้าน รวมทั้งต่อหน้าตาคล้าวร่างทรงด้วย ตาคล้าวได้เห็นดังนั้นก็หัวใจสลายที่เห็นลูกชายลงตายต่อหน้า

จึงสารภาพต่อหน้าชาวบ้านทั้งหมู่บ้านว่าขอโทษด้วยที่ทรงเจ้าหลอกแหกตาชาวบ้าน เพราะความโลภของตนเองแท้ๆ เทพเจ้าอะไรนั้นไม่มีอยู่จริง เทพเจ้าคือพวกเราทุกคนนั่นเองพร้อมทั้งเผาศาลเจ้าพ่อบ้านบางปูน และยิงตัวตายตามลูกชายไป

จบ

โดย : zczc


ที่มา : บอร์ด "ประชาไท" : เรื่องของชาวบ้านกับคนทรงเจ้าในหมู่บ้านแห่งหนึ่ึี่ง

หมายเหตุ
การเน้นข้อความทำโดยความเห็นของผู้จัดเก็บบทความ

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

จุดออ่นด้อยของคนในหมู่บ้าน คือ 1.ถ้าชาวบ้าน และสังคมในหมู่บ้านขาดความรู้ ข้อมูล (ต้องหาทางแก้ไข) 2.หากชาวบ้านเห็นแก่ตน มากกว่าสังคม (ต้องหาทางแก้ไข) 3.ต้องมีการถ่ายทอดสร้างจิตรสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม โดยนำแนวทางตามทบ.CSR สู่ทุกคนในหมู่บ้าน 4.ต้องหาทางร่วมกับชาวบ้าน ผู้ใหญ่บ้าน พระ ผลักดันให้คนทรงเจ้าหยุดหากินแบบเจ้าเล่ห์ หมาจิ้งจอก และทำนาบนหลังคน ให้ประกอบอาชีพสุจริตแบบชาวบ้าน
ชาวอู่ข้าวอู่น้ำ อย.