วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2551

บทความเรื่อง"ในหลวงกับพายุนาร์กีส" ตัวอย่างของความจงรักภักดีที่ไร้การไตร่ตรอง


เคยได้รับไหมครับฟอร์เวิร์ดเมล์เรื่องนี้บอกว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงทราบล่วงหน้าว่าจะมีพายุที่เป้นอันตรายต่อชีวิตชาวไทยจึงทรงสั่งให้ทำฝนเทียมเป็นแนวกันพายุ..

ส่งผลให้พายุทำลายแต่เฉพาะพม่าที่เป็นศัตรูของไทย..

และมีแถมอีกว่าตอนงานเลี้ยง APEC ขณะพระองค์ท่านสะดุดระหว่างเสด็จพระราชดำเนินได้ทรงห้ามทหารองครักษ์ใม่ให้ประคองโดยอ้างว่าทรงมีกระแสรับสั่งว่า

"ไม่ต้องมาพยุงเรา เราจะเดินให้คนทั่วโลกได้เห็นว่าเราเดินได้ ให้คนทั่วโลกได้เห็นว่าเราสามารถปกครองคน64ล้านคนด้วยตัวของเราเองได้"

ที่ต้องมาตั้งกระทู้วันนี้ก็เพราะวันนี้ลองใช้ google หาคำว่า "อาจารย์เอกราช"ซึ่งเป็นบุคคลที่เจ้าของเมล์อ้างปรากฏว่าผมต้องตกใจเพราะมันแสดงผลว่าปัจจุบันเมล์ตัวนี้กำลังกระจายออกไปอย่างกว้างขวางในเว็บไซต์จำนวนมากและทุกคนที่อ่านหรือนำไปลงก็แสดงความตื้นตันในพระมหากรุณาธิคุณบางคนบอกว่าอ่านแล้วน้ำตาไหล...

บางคนตั้งใจที่จะส่งต่อเมล์นี้ออกไปอีกให้คนไทยรู้ว่าไทยรอดพ้นภับธรรมชาติเพราะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงใช้ฝนเทียมป้องกันประเทศเอาไว้...

น้อยคนมากที่จะตั้งข้อสงสัยถึงความเป็นไปได้...

น้อยคนที่จะคิดได้ว่าพรมแดนไทยพม่าหลายร้อยกิโลเมตรจะต้องใช้เครื่องบินทำฝนเทียมกี่ลำจึงจะทำได้ตลอดแนวและฝนที่เกิดจากการกลั่นตัวของหยดน้ำที่มาจากสารเคมีจะส่งผลอะไรต่อมหาวาตภัยที่กระหน่ำเข้ามาด้วยความเร็วเกินร้อยกิโลเมตรต่อชั่วโมงแต่

คนก็เชื่อ...

เชื่อโดยไม่ต้องมีเหตุผล...


ผมคิดถึงสมัยก่อนที่พี่แอ๊ด ปากเกร็ด ท่านเริ่มตั้งข้อสงสัยถึงบทความ
"36 แผนที่ชีวิตของพ่อ..."ที่ทุกคนช่วยกันตรวจสอบกดดันจนในที่สุดสำนักพระราชวังต้องออกหนังสือยืนยันว่าเป็นพระราชดำรัสปลอมแต่ที่ปรากฏอยู่ทุกวันนี้..

บทความนี้ยังคงกระจายอยู่บนอินเทอร์เน็ตอย่างไม่รู้จบสิ้น..
ทั้งที่เนื้อหาของมันขัดแย้งต่อพระราชดำรัสของพระองค์ท่านอย่างชัดเจน...


แต่น้อยคนเหลือเกินที่จะตั้งข้อสงสัย...
น้อยคนเหลือเกินที่จะลุกขึ้นมาถามว่าเป็นพระราชดำรัสจริงหรือ...
กลายเป็นว่าบทความอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับพระองค์ท่าน..


เป็นสิ่งที่ห้ามถามห้ามละเมิด..

และต้องเชื่อโดยไม่มีข้อโต้แย้ง....


ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมเห็นการอ้างพระองค์ท่านเพื่อประโยชน์ทางการค้าเพือ่ประโยชน์ทางการเมือง เพื่อตนเอง เห็นมาจนนับไม่ถ้วน ไม่ต้องพูดถึงการเมืองที่เดี๋ยวนี้ทุกฝ่ายพยายามอ้างอิงพระองค์ท่าน มาทำลายอีกฝ่ายเพราะแม้กระทั่งคนธรรมดาก็พยายามแสวงประโยชน์...

สมัยที่จตุคามกำลังโด่งดังพ่อค้าพระที่ท่าพระจันทร์ปล่อยข่าวว่าพระองค์ท่านทรงจตุคามรุ่นนั้นๆ ทำให้แพทย์ไม่สามารถผ่าตัดได้ จนต้องขอให้ทรงนำออกจากพระศอก่อนการผ่าดัด ผลที่เกิดขึ้นคือจตุคามรุ่นนั้นขายหมดไปอย่างรวดเร็วทำกำไรมหาศาลให้คนปล่อยข่าวที่ตุนเอาไว้...(ปล.รู้ตัวรู้ชื่อคนปล่อยข่าวแล้วด้วยซ้า...)

วัดบางวัดย่านจรัลสนิทวงศ์นำเอกสารขออนุญาตจัดทำลอกเกตพระรูปพระองค์ท่านที่สำนักพระราชวังอนุญาต มาโฆษณาประกอบขายจตุคาม..

โดยเรียกชื่อรุ่นว่ารุ่นในหลวง...

และอ้างใบอนุญาตจากสำนักพระราชวังเป็นหลักฐานจูงใจ(ทั้งที่ใบอนุญาตนั้นระบุชัดเจนว่าให้ทำลอกเกตไม่ใช่จตุคาม)แต่ผลก็คือคนไปแห่รอจองจตุคามรุ่นในหลวงที่ว่านี้แน่นวัดและเชื่อว่าเป็นรุ่นที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงอนุญาตให้สร้าง (ดีที่กระแสจตุคามพังพาบไปก่อน ไม่งั้นคงได้มีรายการลากคอคนห่มเหลืองมาเข้าคุกกันบ้าง)

มีอีกหลายกรณีแต่คงไม่พูดในที่นี้ พราะมันจะยาวเกินไปแต่ที่อยากตั้งกระทู้นี้มาก็เพราะอยากถามว่าสังคมเราเป็นอะไรกันไปแล้ว...

ความจงรักภักดีของเราทำไมถึงเดินเข้าไปสู่ภาวะไม่ต้องการเหตุผล...

ไม่ต้องการไตร่ตรองด้วยปัญญาไม่ต้องการสติยั้งคิด...

ความคิดแรกที่กระทบในใจเมื่ออ่านบทความเกี่ยวกับในหลววงบนอินเทอร์เน็ต คือใส่ข้อความ..


"ทรงพระเจริญ"


ลงไปโดยอัตโนมัติพร้อมกับฟอร์เวิร์ดต่ออกไปๆๆๆๆๆๆๆๆ เพื่อให้ทุกคนร่วมกันสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแต่ไม่คิดเลยว่าจะส่งผลอย่างไรต่อพระเกียรติของพระองค์ท่าน...

ผมเคยแสดงความเห็นโต้แย้ง บทความแอบอ้างพวกนี้แต่ก็ต้องตกใจเพราะบ่อยครั้งที่ผมจะถูกด่ากลับมาว่า......

ไม่รักพระเจ้าอยู่หัวฯ...

เป็นบทความที่ดี...

ปลอมแล้วจะเป็นไรไปไม่เสียหาย..

หรืออย่างเบาๆ ก็...

ไปหาหลักฐานมายืนยันว่าเป็นของปลอมสิ...


เคยทำไหม...เคยครับ เคยติดต่อสำนักราชเลขาธิการ...ทั้งเรื่องแผนที่ชีวิต ทั้งเรื่องจตุคาม...พอเอามาบอกก็ยังไม่ยอมเชื่อ...ต้องการหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษร แต่บทความที่แอบอ้าง บทความที่พวกเขาเชื่อ..

กลับไม่เคยเรียกร้องให้เสนอหลักฐาน...


พร้อมที่จะเชื่อเสมอ...


เรื่องพายุนาร์กีสนี่ก็เหมือนกัน แต่ครั้งนี้ผมคงไม่ถามสำนักราชเลาขาธิการหรือโครงการฝนเทียมในพระราชดำริอีกแล้วอีกแล้วเนื่องจากรู้ว่าถ้าถามไปคงโดนหัวเราะขบขันกลับมา...

เพราะมันไร้สาระเกินกว่าที่จะเชื่อได้....

แต่ก็น่าแปลกที่คนจำนวนมากในอินเทอร์เน็ตกลับเชื่อกันอย่างจริงจังและยังพยายามกระจายออกไปไม่หยุดหย่อน ทำนายไว้ได้เลยว่ามันจะเป็นฟอร์เวิรดเมล์อมตะที่จะผุดขึ้นมาทุกครั้งที่มีข่าวเกี่ยวกับพระองค์ท่าน

คราวนี้มาถึงคำถามแล้ว...

เราจะทำอย่างไรกับสถานการณ์นี้ดี...

ปล่อยให้กระจายออกไปๆๆๆ...

จนในที่สุดพระราชกรณียกิจที่ทรงอุทิศพระวรกายเพื่อประชาชนไทยในฐานะกษัตริย์ผู้เป็นมนุษย์..

กลับถูกบดบังด้วยอภินิหารเหนือธรรมชาติ...

ในฐานะเทพเจ้าที่ห้ามละเมิดหรือไม่เชื่อในทุกกรณี...


ระหว่างบุญญาธิการที่ดำรงอยู่ในทศพิธราชธรรม..

กับอภินิหารที่ถูกสร้างขึ้นตกแต่งเชิดชู...



สิ่งใดที่จะคำจุนรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทยให้คงอยู่คู่สังคมไทยตลอดไป..


ลองคิดดูกันไหมครับ?


by Bluewhale

ที่มา : Bluewhale : บทความเรื่องในหลวงกับพายุนาร์กีส.. ตัวอย่างของความจงรักภักดีที่ไร้การไตร่ตรอง

หมายเหตุการเน้นข้อความทำโดยความเห็นของผู้จัดเก็บบทความ

ไม่มีความคิดเห็น: