วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2550

ถึงเวลาส่งราชนิกุลไปทำไร่ไถนาสักปี " เพื่อซึมซับพอเพียง "


ที่ละล้านหาเงินสมทบการกุศล ราชนิกุลสมทบพันธมิตรจัดงานลำลึกล้มทักษิณ “สุดหรู”หมดเงินไปเป็นล้านเศรษฐีเก่าผู้ดีเก่า ขายบ้านเก่าในตระกูล “ร้อยปีๆ” แถวสุขุมวิทรายวัน สร้างคอนโดขายฝรั่ง เศรษฐีรุ่นใหม่ จัดงานระดมพลคนเจ้าของ Ferrari มากัน 200-300 คัน ตีราคาเป็นพันๆล้าน แต่ไม่กล้าออกข่าว “กลัวสวนกระแส”พอเพียง สื่อไทยสำนักข่าวไทย “ซื้อหัวนอกออกหัวใน” แย่งตลาด “ไฮโซ” ทั้งเมียทหารทั้งเมียใครต่อใคร กลายเป็น “ตู้เพชรเคลื่อนที่” เต็มเมือง ดารานักร้องละครทีวีผู้ผลิตหนัง “สุดกระหายรวยเร็ว” มุสลิมปิดผ้าแอบหน้า เดินจูงครอบครัวเต็มห้างเซ็นทรัล นักเรียนจุฬา อาบแอร์เย็นของ สยามพาราก้อน กันเป็นพันทุกวัน พระสงค์องค์เจ้า เดินทั่วห้างพันทิพย์ ไม่เล่นกอร์ฟ ไม่ได้ ไม่มีคอนโดริบหาด ไม่ได้ ไม่มีบ้านเชียงใหม่ ไม่ได้ ไม่มีบ้านเขาใหญ่ ไม่ได้ สรุปคือ “เมามันกันเหลือเกิน”

แต่พอพูดถึงการเมือง แทบทุกคนในกรุงเทพ ก็หนีไม่พ้น โจมตีทักษิณและทรท “ว่าทุนนิยม วัตถุยิยม โตเร็วนิยม สุดขั้ว” และทักษิณมีการ “แอบโจมตีพอเพียงอย่างต่อเนื่อง” พูดไป “ยิ่งภูมิใจที่ใส่เสี้อเหลือง” ยิ่งเกลียดทักษิณ “คนชั่วที่ไม่รักในหลวง” ด่าทักษิณเสร็จ “เดินชอปปิ้งต่อ” สรุปกันว่า “ทหารทำดีแล้ว” ส่วนเรื่องเศรษฐกิจปีนี้ไม่ดี “ไม่เป็นไร” ต้องขยันขึ้น ทำงานมากขึ้น เข็นองค์กรลูกน้องให้มากขึ้น “เผื่อได้เงินเดือนขึ้น ได้โบนัส

ใช่เลย “คนกรุงเทพ พอเพียงที่สุด” เมื่อวันก่อนเศรษฐีใหญ่ ราชนิกุลเก่า ออกทีวีไปแล้ว บอกว่าได้นำเอาพอเพียงมาใช้ “เพิงตัดสินใจขยายโรงงานจิรนัยเพชรไปสามร้อยล้าน ก่อนลงทุนเอาพอเพียงมาใช้ คือขยายโรงงานให้พอเพียง ไม่มากไปไม่น้อยไป กำลังพอดี” ปีที่แล้ว งบโฆษณาการตลาด ในไทยของบริษัทเพชรของราชนิกุลคนนี้ ก็ไม่มาก “สองร้อยกว่าล้านเท่านั้น” ในไทย คนซื้อเพชรก็คงบอกว่า “พอเพียงในการซื้อเพชร” คือซื้อไม่มากไปแล้วก็ไม่น้อยไป “พอออกสังคมไฮโซโดยไม่เสียหน้าเท่านั้น” ไปกันถึงขนาดกระเป๋ามัดหมี่และไหมไทย บางรุ่น แพงกว่า Ferragamo เสียอีก

มันเป็นเวรกรรมจริงๆสำหรับคนจน ที่ซื้อมือถือก็ถูกคนกรุงเทพด่าแล้วว่า “ฟุ่มเพือยไม่พอเพียง” และอีกสารพัดด่า “มันโง่ใช้เงินไม่เป็น มันควายที่เลือกทักษิณ ให้เงินกองทุนมันไม่ได้เพราะมันซื้อของฟุ่มเฟือยหมด ดูหนี้มันสิ เอาเงินเป็นแสนๆไปสร้างบ้านใหม่ทำไม ให้มันมีหวยบนดินไม่ได้เพราะมันซื้อมากขึ้น สามสิบบาทมันจะทำให้ชาติล่มจม มันลงทุนซื้อรถกะบะขนของไปขายตลาดทำไม มันไม่คุ้มเลย มันสุดโง่ที่เชื่อว่าทักษิณจะทำให้มันหายจน” สรุปคือทักษิณสุดเลว ที่ไปสร้างความหวังให้คนจน ราชนิดุลบอกว่า “ทางออกคือพอเพียงและเกษตรผสมผสานเท่านั้น” ต่อด้วยว่า “คนเอาพอเพียงมาใช้ มีความสุขเพิ่มขึ้นถึงสามเท่า”

ปัญหานะคือ พวกไฮโซราชนิกุล ทั้งหลาย “ไม่ได้เข้าใจอะไรของจิตใจคนจนเลย” และที่น่าเสียใจ คือ “ไม่สนใจด้วยว่าคนจนรู้สึกอย่างไร” มันเป็นอย่างนี้ครับราชนิกุลทั้งหลาย “วันหนึ่งมีคนมาบอกเขาว่าเขาจะหายจน แล้วทำโน่นนี้ให้เขาเห็นว่าจริงจังมาก มาอีกวันมีคนบอกเขาว่าอย่าเลย อยู่อย่างพอเพียงดีกว่า” แล้วอยู่ๆก็มีรถจากค่ายทหาร มาขนพวกเขาเข้าค่าย “อบรมเรื่องพอเพียงและให้เกลียดทักษิณ” แถมติด ASTV ให้ฟรี

คือมันไม่เหมือนปีที่แล้วเลยนะ ที่ทักษิณเชิญคนจนไปอำเภอ ไปลงทะเบียนกันว่าทำไมจน และทาง “นายอำเภอ”หาทางแก้ไขให้ “แบบเป็นรายๆไปเลย”

สรุปคือ “รู้เขารู้เรา” เสียก่อน ก่อนไปบอกเขาว่าให้ “ดำเนินชีวิตอย่างไร” ราชนิกุลไทยนะห่างความจนมานานแล้ว วกลับไปถามคนเก่าคนแก่ในตระกูลเสียก่อน ว่าทำอะไรลงไปบ้าง เพื่อให้มา “อยู่จุดที่อยู่กันวันนี้นะ” รับรองได้ “กระเสือกกระสนเข้าวังและใกล้ชิดวัง กันทั้งนั้น” ถ้าจะให้รู้จริงว่าอะไรดีสำหรับคนจน ลองกลับไป “ปลูกไร่ไถนา” ดูสักปีสิ ว่ามันเป็นอย่างไร แล้วเอามาเทียบกับ “สิ่งที่เป็นอยู่ทุกวันนี้” ร้อยทั้งร้อย “เลือกไม่เอาไร่ไม่เอานา” จะเอาซอยละลายทรัพย์ จะอยู่กับเพื่อนๆราชนิกุล ไปงานนั่นนี้ ยืนเข้าแถว

ก็มีคนบอกนะ ว่าให้หาค่าเฉลี่ยออกมาสิ ว่าไม่รวยไปไม่จนไป ไม่มีหนี้มากไป ไม่มีหนี้น้อยไป ไม่ยืนบนขาตัวเองมากไป ไม่ยืนบนขาคนอื่นมากไป พึ่งตัวเองแบบกำลังพอดีๆ แบบกลางๆ พอเพียง พอดีพอดี ใช้เงินไม่มากไป ไม่น้อยไป ไม่ฟุ่มเพือยมากไป และอื่นๆที่ พอเพียงไปหมด นะมันอยู่ตรงไหน สำหรับคนกลุ่มต่างๆ ระดับต่างๆ แล้วทุกคนก็พยายาม เดินเข้าไปหาจุดนั้นกัน

แต่ความคิดนั้นยังไม่ทันตกผนึก สุรยุทธิมาแล้ว “พอเพียงคือปรัชญาดำเนินชีวิต ไม่ใช่ทฤษฐีเศรษฐกิจ” คือเอาไงแน่ ถ้ามันปรัชญาจริง ลากคนจนเข้าค่ายทหารสั่งสอนกันทำไม พยายามกำจัดนโยบายประชานิยมทำไม โจมตีทักษิณทำไม คือ “รัฐ” มีสิทธิอะไร กว้านคนจนขึ้นรถทหาร เข้าค่ายทหาร ไป “ล้างสมอง” คนจน แล้วสอนให้เขาเกลียดทักษิณ ก็ถ้าพอเพียงไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจ แล้วปรัชญาพอเพียงนี้ ไป “ลบล้างและเปรียบเทียบ กับทฤษฐีเศรษฐกิจแบบทักษิโนมิกส์ได้ไงกัน” แบบที่ออกมาด่าทักษิณว่าทำนะ คือมันก็คนละเรื่องไปเลยนะ แต่เอาหละจะไม่หาเรื่องตรงนี้ เพราะสุรยุทธผิด “พอเพียงจริงๆแล้วคือเรื่องเศรษฐกิจ”

สรุป คือการไม่อยากจนนะ มันมีมาก่อนทักษิณนะ ทักษิณเขาตอบสนองเท่านั้นเอง ส่วนพวกท่านราชนิกุล กำลังเอาของใหม่มาใช้นะ คือไม่ต้องไปอยากอะไรมากมายนัก ไม่ใช่ปล่อยให้เข้าถึงกันเองนะ แต่ลากเขาเข้าค่ายทหารกันเลย แต่คุณให้เขาเลือกว่าจะเอาอะไรเองไหม “เปล่า” คุณล้างสมองเขาตลอดเวลา ตัดสินใจให้เขาแล้วว่านี่ดีที่สุดสำหรับเขา ส่วนตัวคุณราชนิกุลเอง “มองในกระจกนานๆ ถามคำถามยากๆเกี่ยวกับตัวเอง” แบบหยิ่ง แบบรู้สึกว่าตัวเองสูงกว่า แบบฉันราชนิกุลสูงระดับนี่นั้น แล้วแบบนั้นอื่นๆอีกนะที่มากันเป็นชุดๆ แบบนั้นนะมันพอเพียงหรืออะไร หรือจะเอาแบบผมก็ได้ “เข้าวัดทุกอาทิตย์ ธรรมมะธรรมโม กราบไหว้พระ ทำบุญฟังพระ ปูเสื่อนั่งตากแดด อยู่กับคนเป็นร้อยๆ ที่เหงื่อตกเปียกไปทั้งตัว เพื่อรับเสด็จพระเทพ” ลองมาทำอย่างนี้ดูสิ แล้ว “พอเพียงก็ซึมเข้ามาเอง”


ทวีวุฒิ จุลวัจนะ

ที่มา : http://thaianticoup.blogspot.com/2007/02/blog-post_14.html

ไม่มีความคิดเห็น: