เจ้าตั้งพรรคการเมือง
เขมรเป็นประเทศอยู่กลางดินแดนอินโดจีน
เจริญรุ่งเรืองมาก ในศตวรรษที่ 17 เขมรรุ่งเรืองกว่าไทยหลายเท่าตัว ไทยเป็นเมืองขึ้นของเขมร ที่ปราสาทนครวัต มีภาพแกะสลักกองทัพไทย ส่งกองทหารไปส่งเครื่องราชบรรณาการปรากฏอยู่
เขมร ตกเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส เมื่อปี 2407 ยาวนาน 89 ปี
ฝรั่งเศสปล้นสะดมทรัพยากรออกจากเขมรไปมหาศาล คนเขมรได้สู้รบเพื่อเอกราชของเขมรมาตลอด จนปลดปล่อยเป็นเอกราชได้ เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ.2496 ในสมัยของเจ้านโรดม สีหนุ
ไม่รู้เจ้าเขมรองค์นี้คิดยังไง ถึงได้กลายมาเป็นเจ้าเล่นการเมือง
ปี 2498 สมเด็จเจ้าสีหนุ
สละราชบัลลังก์ เลิกเป็นกษัตริย์ มาเป็นนักการเมือง
ก่อตั้ง พรรคประชาชนสังคมนิยมชุมชน (People ‘s Sosialist Community) และได้ลงสมัคร ส.ส. และได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนแรก ในระบอบประชาธิปไตยเขมร
ปี 2510 เวียดนามเหนือ เปิดสงครามส่งทหารมาตีฝ่ายใต้เพื่อปลดปล่อย โดยส่งทหารกับเสบียงมาตามเส้นทางโฮจิมินห์ ที่ถนนบางช่วงต้องเข้าเขตเขมร ตามความยินยอมของสีหนุ
ทำให้อเมริกาไม่พอใจ จึงวางแผนสนับสนุน นายพลลอนนอล ทำการรัฐประหาร ยึดอำนาจจากสีหนุ ในปี พ.ศ. 2513 ขณะที่สีหนุอยู่ต่างประเทศ
กลุ่มเขมรแดง ได้ร่วมกับชาวนารบกับลอนนอล วันที่ 17 เมษายน 2518 เขมรแดงภายใต้การนำของพอลพต และเขียว สัมพันธ์ ได้ชัยชนะเข้ายึดกรุงพนมเปญ โดยสีหนุ ที่พำนักอยู่จีน แอบไปจับมือกับเขมรแดงด้วย
เขมรแดง สั่งปิดประเทศเป็นเวลา 4 ปี ปกครองอย่างหฤโหด ต้อนคนออกชนบททั้งหมด มีผู้คนถูกเข่นฆ่า ทารุณจนล้มตายไปอย่างป่าเถื่อน โหดเหี้ยมราว 3 ล้านคน จนมีทหารเขมรแดงกลุ่มหนึ่งทนไม่ไหว ไปขอร้องให้เวียดนามส่งกองทัพเข้ามาขับไล่รัฐบาลเขมรแดง
วันที่ 7 มกราคม 2522 กองทัพเวียดนาม ยกทัพเข้ามาตีเขมรแดง จนเขมรแดงแตกพ่ายถอยทัพออกจากพนมเปญ ไปตั้งกองกำลังตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย
เวียดนามจัดตั้งรัฐบาลเฮง สัมริน โดยมีนายฮุนเซ็น เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ ขณะมีอายุเพียง 27 ปี
ฮุนเซ็น พูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แต่เป็น รมว.ต่างประเทศได้
ต่อมาอายุ 33 ปีในปี 2528
ฮุนเซ็นก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรีที่มีอายุน้อยที่สุดในโลก
เจ้าสีหนุ หนีไปอยู่จีน สลับกับฝรั่งเศส
ปี 2524 เจ้าสีหนุ ได้ก่อตั้ง แนวร่วมประชาชนกัมพูชาเพื่อสันติภาพ ซึ่งต่อมากลายเป็น พรรคฟุนซินเปค (Funcinpec) ให้เจ้ารณฤทธิ์ ลูกชายคนโต เป็นหัวหน้าพรรค
ปี 2532 เวียดนามเกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ในขณะที่มีแรงกดดันให้ถอนทหารเวียดนามออกจากกัมพูชา ในช่วง 8 เดือนของปีนี้มีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมากเช่นกัน จนที่สุดทหารเวียดนามต้องถอนทัพออกจากกัมพูชา หลังจากครอบงำกัมพูชามากว่า 12 ปี
ปี 2534 มีการเซ็นสนธิสัญญาปารีส เพื่อยุติสงครามกลางเมือง ร่วมกันระหว่าง เขมรสามฝ่าย
แล้วมีการเลือกตั้งในปี 2536 ภายใต้การ ควบคุม ของ UNTAC หน่วยงานหนึ่งของสหประชาชาติ
ผลการเลือกตั้ง ไม่มีพรรคการเมืองใดได้เสียงข้างมาก ทำให้จัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ และยังมีการประท้วงผลการเลือกตั้ง จนเป็นเหตุให้มีการจัดตั้ง รัฐบาลผสม ที่มีนายกรัฐมนตรีสองคนคือ ฮุนเซ็นกับรณฤทธิ์
สหประชาชาติกับสหรัฐ
ให้ฟื้นระบอบกษัตริย์กลับคืนมาด้วย สีหนุเป็นกษัตริย์ต่อ
ปี 2540 กองกำลังของฮุนเซ็น ปะทะกับกองกำลังของเจ้ารณฤทธิ์ บริเวณสนามบินโปเตนชง โดยนายฮุนเซ็น กล่าวหาเจ้ารณฤทธิ์ นำอาวุธสงครามเข้ามาจำนวนมากจากนอกประเทศ และนำเขมรแดงเข้ามาพนมเปญ
เจ้ารณฤทธิ์ หลบออกนอกประเทศ นายฮุนเซ็นควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ไว้ได้ ต่อมาศาลทหารกัมพูชา ตัดสินลงโทษเจ้ารณฤทธิ์ ในข้อหาลักลอบนำอาวุธเข้าประเทศจำคุก 30 ปี แต่กษัตริย์สีหนุให้มีการนิรโทษกรรม
ปี 2541 ผู้นำเขมรแดงนายพอลพต
ตายที่เมืองไพลิน จบกองกำลังเขมรแดง
ปัจจุบันมีนายฮุนเซ็น เป็นนายกรัฐมนตรี มีอำนาจ เบ็ดเสร็จ
ส่วน สีหนุ กษัตริย์แห่งเขมร เจ้าที่เคยตั้งพรรคการเมืองถึง 2 ครั้ง พรรคประชาชนสังคมนิยมชุมชน กับ พรรคฟุนซินเปค เมื่ออายุถึง 80 ปี ป่วยเป็นมะเร็ง พำนักที่จีน ให้ลูกชายชื่อว่า สีหโมนี
เป็นกษัตริย์ใต้รัฐธรรมนูญ
เรื่องนี้เขียนให้ สุรเกียรติ์ เสถียรไทย อ่านเป็นการเฉพาะ
จาก : นสพ.บ้านเมือง : ฉบับวันที่ 11 กันยายน 2550
********
นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ลั่นคำ
" ถ้าเจ้า ยุ่งการเมือง ต้องโดนอัดคืนบ้าง "
ราชานิยมตายแล้วเกิดใหม่
ราชวงศ์เล่นการเมืองมีเฉพาะในเขมรเท่านั้น
มีแต่กัมพูชาเท่านั้นในโลกที่ได้ดำเนินนโยบายชนะ ชนะ โดยที่ไม่ต้องใช้ระเบิด ไม่ใช้กระสุนปืน และมีเอกภาพดินแดน นี่เป็นคำกล่าวของสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเตโช ฮุน เซน ที่กล่าวในงานเปิดอาคารกองทัพภาค 5
สมเด็จฮุน เซน กล่าวย้ำว่า เพียงแค่ขึ้นชื่อว่าเขมรก็นับว่าแปลกแล้ว อย่างเช่นแนวคิดราชานิยมได้ตายไปเมื่อ 23 ปีที่แล้ว แต่กลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้มีเฉพาะที่กัมพูชาเท่านั้น ประเทศอื่นถ้าสูญสลายก็คือสูญสลายจริง ๆ แต่ราชานิยมเล่นการเมืองก็มีอยู่เฉพาะในประเทศกัมพูชา ในประเทศไทยหรือญี่ปุ่นเขาไม่มี และเราไม่ได้ห้ามไม่ให้ราชวงศ์ที่อยู่ในประเทศกัมพูชาเล่นการเมืองแต่อย่างใด
สมเด็จฮุน เซน กล่าวอีกว่า เชิญตามสบายเลยแต่เมื่อเล่นการเมืองแล้วหมายความว่า “ถูกต้อง” ซึ่งเรื่องนี้นักวิเคราะห์เข้าใจว่า การเล่นการเมืองจะต้องมีกระทบกระทั่งกัน ไม่ว่าจะด้วยคำพูดหรือการแข่งขันบนในเวทีการเมือง สมเด็จฮุน เซน กล่าวอีกว่า ไม่ใช่ว่าชกเขาแล้วพอเขาชกคืนกลับหันมาบอกว่า “ตนเป็นเจ้า” เรื่องนี้ไม่ได้แน่นอน ต่อให้เป็นพ่อของเจ้าก็ชกเหมือนกัน
นอกจากนี้สมเด็จฮุน เซน ได้แสดงข้อแตกต่างระหว่างราชวงศ์เขมรกับราชวงศ์ไทยว่า ราชวงศ์ไทยไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมือง ฉะนั้นแล้วไม่มีใครกล้าแตะต้อง แต่ที่เขมรเล่นการเมืองมันต่างจากบ้านเมืองเขา บ้านเราแตกต่างจากเมืองเขาแม้แต่สันติภาพก็ยังแตกต่าง นักวิเคราะห์บางคนพูดว่า ราชวงศ์เขมรกำลังทำให้กระทบต่อระบบราชานิยมที่ขึ้นอยู่กับกฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข
สมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ ที่นำพระนามของพระองค์มาตั้งเป็นชื่อพรรค เคยตรัสว่า หากกฎหมายกำหนดว่า ไม่ให้ราชวงศ์เล่นการเมืองพระองค์ก็จะลาออกจากการเป็นเชื้อพระวงศ์ พระองค์ยังตรัสอีกว่า ราชวงศ์ก็เป็นประชาชนคนหนึ่ง ต้องมีสิทธิในการดำเนินกิจการทางการเมือง แม้จะเข้าใจเช่นนี้ก็ตาม แต่สาธารณชนมีความเห็นว่า ต้องการที่จะเห็นราชวงศ์เขมรเลิกยุ่งเกี่ยวกับการเมืองระดับชาติ แล้วหันมาฟื้นฟูระบบกษัตริย์ให้สอดคล้องตามกฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนดน่าจะเป็นการดีกว่า
ในปัจจุบันที่มองแล้วดูแล้วไม่สมควรคือ หลังจากมีความแตกร้าวภายในพรรคฟุนซินเปค นายแกว ปดเรียะเซม็ย หัวหน้าพรรคฟุนซินเปค บุตรเขยในสมเด็จนโรดม สีหนุ น้องเขยในสมเด็จกรมพระนโรดม รณฤทธิ์ และพี่เขยของพระมหากษัตริย์ ส่วนสมเด็จเจ้าหญิงนโรดม อรุณรัศมี พระน้องนางเธอของเจ้ารณฤทธิ์ ขณะนี้สมาชิกพรรคของทั้งสองพระองค์กลับกลายเป็นศัตรูต่อกัน
ซึ่งอนาคตไม่รู้ว่าเกียรติยศราชวงศ์เขมรจะเป็นอย่างไรต่อไป
จาก : ศูนย์อินโดจีนศึกษา : มหาวิทยาลัยบูรพา : news =839
ที่มา :
1.เจ้าตั้งพรรคการเมือง : สุริยอัสดง (อาทิตย์สาดส่อง..ความจริงจักปรากฎทั่วปฐพี!!! )
2.นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ลั่นคำ "ถ้าเจ้า ยุ่งการเมือง ต้องโดนอัดคืนบ้าง" : บอร์ด "ฟ้าเดียวกัน" : นายกลั่น "ถ้าเจ้า ยุ่งการเมือง ต้องโดนอัดคืนบ้าง" โดย. buddy
หมายเหตุ
การเน้นข้อความทำโดยความเห็นของผู้จัดเก็บบทความ
วันเสาร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2551
เจ้าตั้งพรรคการเมือง และ นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ลั่นคำ "ถ้าเจ้า ยุ่งการเมือง ต้องโดนอัดคืนบ้าง"
ผู้จัดเก็บบทความ เจ้าน้อย ณ สยาม ที่ 8:25 หลังเที่ยง
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น