เกิดอะไรขึ้นระหว่างอดีตนายกกับสถาบัน ?
เหตุการต่างๆที่เกิดขึ้นมีความสัมพันธ์เกี่ยวดองกันอย่างเป็นเหตุเป็นผล มีคำตอบทั้งหมด ปฏิเสธไม่ได้ มีหลักฐานจากสื่อมากมาย เช่นข่าวที่เป็นทางการเกี่ยวกับสถาบันทั้งในทางบวกและทางลบ ไหนจะแถมข่าวลือต่างๆอีก
อดีตนายกนั้น สถาบันอาจจะไม่ถูกใจนัก เพราะคิดการใหญ่ซึ่งมีผลต่อการดำรงอยู่ของสถาบัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องนโยบายต่างๆของรัฐบาลในยุคที่อดีตนายกเป็นหัวเรือใหญ่ ต่างก็ทำให้ประชาชนเห็นถึงนโยบายที่สร้าง
ความแตกต่างจากทุกรัฐบาลที่ผ่านมา อันความแตกต่างนั้นเป็นความแตกต่างที่ประชาชนส่วนมากของประเทศเป็นผู้ได้ประโยชน์
อดีตนายกเองก็รู้อยู่เต็มอกเหมือนที่หลายๆคนก็รู้กัน ว่าสถาบันทำไม่ดีอะไรมาบ้าง และฉุดรั้งความเจริญของชาติมากขนาดไหน
อดีตนายกรู้ว่าประชาชนยังมืดบอดอยู่ ก็ทำอะไรมากไม่ได้ ก็ต้องวางเฉยไปก่อน แต่ก็แอบสนับสนุนให้รัชทายาท(อันดับที่1) ขึ้นครองราชเป็น กษัตริย์องค์ต่อไป เพราะถ้ารัชทายาท(อันดับที่1)ขึ้น ประชาชนไม่เอาแน่ สถาบันก็ล่มแน่นอน
อดีตนายกให้เงินรัชทายาท(อันดับที่1)หลายครั้งหลายหนมาก รัชทายาท(อันดับที่1)ก็ขอไม่หยุดเหมือนกัน ไล่ตั้งแต่สร้างวังที่เมืองหลวงเก่าของประเทศให้แม่ และ ซื้อวังเก่าที่อยู่ติดกับเมืองหลวงปัจจุบัญคืนจากเจ้า
ของบ่อนที่อังกฤษ (อัลฟาแย็ด) ก็เงินอดีตนายก แล้วก็นำไปถวายคืนพ่อของตน ล่าสุดจะขอหุ้นลมของบริษัทของอดีตนายก เจ้าตัวเขาก็ไม่ไหวก็ต้องขายหุ้นทิ้ง ก็เลยโดนโจมตีเรื่องนี้ทันทีว่าขายชาติ
รัชทายาท(อันดับที่1)ก็ไม่ลดละไปขอหุ้นลมจากบริษัทที่ซื้อหุ้นไปจากอดีตนายกอีก ให้ลูกน้องคนสนิดไปขอ พวกสิงคโปรก็เลยเอาเรื่องไปลงใน Wall Street Journal เจ้าตัวเองก็ต้องสั่งปลดลูกน้องคนสนิด และทำทีว่าไม่เกี่ยวข้องกับตน (เรื่องนี้มีข่าวออกใหญ่โต ถ้าจำกันได้)
ประธานที่ปรึกษาฯสัมพันธ์อย่างไรกับสถาบัน
ประธานที่ปรึกษากษัตริย์นั้นเป็นนอมินีสถาบันอย่างดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา เรียกได้ว่าสมบูรณ์ที่สุดในสายตาของสถาบันเลยทีเดียว ดีกว่าจอมเผด็จการสลดอดีตนายกเสียอีก
การขึ้นมาเป็นใหญ่ของประธานที่ปรึกษากษัตริย์นั้น เริ่มจากเป็นแม่ทัพภาคที่ 3 แล้วข้ามมาเป็น ผบทบแล้วเป็นนายก ควบ ผบทบ ต่ออายุ ผบทบ การปฏิวัติทุกครั้งตั้งแต่ เกรียง ชมะ จนกระทั้งการปฏิวัติล่าสุดเมื่อเร็วๆนี้ ก็เกี่ยวกับประธานที่ปรึกษากษัตริย์ทั้งนั้น
การปฏิวัติทุกครั้งในประเทศ สถาบันอยู่เบื้องหลังทั้งหมด ยกเว้นเพียงครั้งที่ปฏิวัติโดยคณะประชาชนเมื่อตอนเปลี่ยนระบอบการปกครองครั้งแรก กับครั้งที่จอมพล ตราไก่ ปฏิวัติ นายควง นอมินีปรี ซึ่งช่วงนั้นสถาบันอ่อนแอมาก จะล้มแหล่มิล้มแหล่
ประธานที่ปรึกษากษัตริย์นั้นสนิทสนมเป็นการส่วนตัวกับราชินี ถึงขั้นที่ว่ามีความสัมพันธุ์ลึกซึ้ง ที่มีแบบนี้กันได้ เพราะเธอเลิกกับสามีมานานแล้ว ราชินีเธอเป็นคนแพ้เครื่องแบบ เห็นทหารเท่ห์ แล้วหัวใจสะท้านตัวอ่อน
ปวกเปียก ล่าสุดถึงกับเพ้อออกทีวีในงานวันเกิด ว่าทหารรัสเซียมันเท่ห์ขนาดไหน
ประธานที่ปรึกษากษัตริย์นั้นเข้ากันได้กับทั้ง กษัตริย์และราชินี แต่สนิทกับราชินีมากกว่า กษัตริย์ไม่ถูกกับราชินี มานานแล้ว เพราะราชินีคิดทาบบารมี หลายๆอย่างด้วยกัน เช่นจัดงานวันเกิด ใส่เสื้อสีฟ้า กำหนดวัน
แม่มาก่อนวันพ่อ ตัวกษัตริย์เองก็เคยเหน็บๆว่าทองเขียวรู้จักเห่า เห่าเธอกับลูกชาย ซึ่งไม่รู้บุญคุณ ทองเขียวรู้จักบุญคุณ เลี้ยงหมาดีกว่าเลี้ยงคน
กษัตริย์เองต้องการให้รัชทายาท(อันดับที่2)สืบราชบัลลังก์ แต่ราชินีอยากให้ลูกชายสืบ กษัตริย์แต่งตั้งให้รัชทายาท(อันดับที่2)เป็นมกุฏราชกุมารี (ตอนแต่งตั้งครั้งแรก ตอนนี้เอาคำว่ามกุฏออกแล้ว แต่ยังเป็นตำแหน่งรัชทายาทเหมือนเดิม)รัชทายาท(อันดับที่1)ไม่พอใจ และเคยเกิดเหตุ ชักปืนขึ้นยิงน้องสาวมาแล้ว แต่มหาดเล็กเอาตัวบังทัน (บางข่าวบอกว่ากษัตริย์ได้เอาตัวรับ แต่จริงๆมหาดเล็กรับ )
กษัตริย์กับราชินีก็เลยคอนฟลิกกันมากขึ้น ประธานที่ปรึกษาฯก็เป็นม้ารับใช้ มาเรื่อยๆจนถึงปัจจุบัน อาจสรุปได้ว่าประธานที่ปรึกษาฯเป็นคนของราชินี ได้มากกว่าราชา ล่าสุดกษัตริย์ก็แอบด่าประธานที่ปรึกษาฯว่าแก่
ไม่รู้จักแก่ และก็ไม่ให้พรอีกด้วย
อดีตนายกรู้แล้วว่าจะต้องโดนปฏิวัติแน่ๆ และรู้ว่าทางฝ่ายตนต้องแพ้แน่ ก็ขนกระเป๋าออกไป 59 ใบคราวที่จะไปประชุมที่ยุโรป และอเมริกา และโอนเงินไปได้เกือบหมดแล้ว เปิดทางให้ปฏิวัติง่ายๆ เพราะอดีตนายก
เลือกที่จะเดินแผนใต้ดินสู้แล้ว
ตอนนี้อดีตนายกก็เล่นเกมส์ใต้ดินอยู่ เล่นกับสื่อหลักของโลก เช่น CNN BBC CCTV NHK ALJASERA เป็นต้น จะเห็นว่าสำนักข่าวพวกนี้เล่นข่าวเป็นแนวเดียวกันหมดคือ สถาบันเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง แต่จะว่าไป
ความจริงสำนักข่าวหลักๆ ก็รู้ความจริงกันมานานแล้ว เพราะข้อมูลต่างๆเขาก็เข้าถึงก่อนใครเพื่อน มีคนส่งไปให้ตลอด
ยุคนี้เป็นยุคที่เรียกว่า ถิ่นกาขาวไอ้เมื่อก่อนผมก็ไม่รู้ เกจิอาจารย์ก็มักแปลกันว่า ถิ่นกาขาว คือประชาชนนิยม เห่อของนอก ของที่ฝรั่งคิดประดิษฐ์มา เห่อแฟชั่น กาขาว หมายถึง ฝรั่ง
แต่ปัจจุบันปรากฏเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า กาขาว คือ กาที่ตัวดำ เพราะธรรมชาติของกาคือตัวดำ แล้วที่ว่ากาขาว คือการพรางตัวของกาดำ ให้มองดูเหมือนตัวขาว หมายถึง คนจิตใจชั่วช้าสามาญย์ (ดำ) ทำตัวเสมือน
หนึ่ง เป็นเทวดาอวตารมาจุติ บำเพ็ญตนประหนึ่ง พระโพธิสัตว์ ผู้บำเพ็ญบารมีให้บรรลุพระโพธิญาน (ขาว)
รัฐบาลจ่ายเงินช่วยเหลือราชวงค์ปีละประมาณ 2,000 ล้านลำพังเงินแค่นี้ รัชทายาท(อันดับที่1)คนเดียวใช้ก็ไม่พอเสียแล้ว
เงินรายได้จากสำนักทรัพย์สินฯ รวมแล้วได้ปีละ 5,000 ล้าน ตกเป็นของกษัตริย์คนเดียว ไม่แบ่งให้ใคร บางส่วนฝากไว้ที่แบงค์สวิส และส่วนน้อยแ่บ่งเอามาเล่นหุ้นในประเทศ คาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 700,000 ล้าน
แล้ว กษัตริย์เคยเกือบจนครั้งหนึ่งก็ครั้งที่เกิด ฟองสบู่แตก สูญทรัพย์สินไปมากกว่า 100,000 ล้าน ก็เลยหวาดกลัวกระแสโลกาภิวัฒน์ ออกมาพูดเรื่อง ทฤษฏีีเศรษฐกิจแบบพออยู่พอกิน ซึ่งฟังยังไงก็ไม่เข้าใจ
เพราะคนพูดยังไ่ม่เข้าใจเลย คนฟังที่ไหนจะเข้าใจขี้ข้าก็เอามายกยอกปอปั้นกันใหญ่ ยิ่งพูดก็ยิ่งงง และยิ่งขัดแย้งกันเอง งงงวยเป็นที่สุด
ส่วนทรัพย์สิน สำหรับตัวกษัตริย์กับราชินีเอง ก็มีพอใช้แล้ว เพราะลำพังตัวกษัตริย์เองก็ไม่ได้ใช้อะไรสิ้นเปลือง ขนาดของใช้ส่วนตัวอย่างยาสีฟันยังใช้รถบดถนนรีดออกมาใช้อย่างคุ้มค่า ราชินีเองก็สะสมเครื่องเพชรโดยการซื้อบ้างไถบ้างไปตามเรื่องตามราวของเธอ
รัชทายาท(อันดับที่1)เองนั้นแหล่ะที่เงินขาดมือบ่อยๆไม่ค่อยจะพอใช้ เพราะเมียเยอะ ลูกก็แยะ แถมยังติดการพนันอีก และเป็นโรคร้ายอีกต่างหาก รักษาเต็มที่จ่ายไม่ยั้ง ก็ได้แต่รักษาอาการให้ทรงไว้ไม่ให้ทรุด ส่วน
ไอ้เรื่องที่ขยันขับเครื่องบินอย่างไม่สนใจน้ำมันที่หมดไป ว่ามันเป็นเงินภาษีของประชาชนหรือเปล่านั้นก็เป็นอีกเรื่องที่น่าปวดใจยิ่งนัก งบประมาณทางการไม่พอก็ต้องหาคนช่วยออกให้ ความจริงตัวรัชทายาท(
อันดับที่1)ก็ดีอยู่อย่างหนึ่ง ที่แกก็เลี้ยงลูกเลี้ยงเมียดี ไม่ทิ้งๆขว้างๆ
ทั้งหมดนี้ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของเรื่องราวในราชวงศ์ของประเทศโทน ซึ่งนับวันแต่จะใกล้ถึงจุดเสื่อมลง หากวันใดที่มายาภาพต่างๆที่พวกเขาและลิ้วล้อได้สร้างขึ้นมาเพื่อลอกลวงประชาชนใช้ไม่ได้แล้ว วันนั้นก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น? เพราะเคยได้ยินคำเก่าๆที่ว่า คนเรายิ่งรักมากก็จะยิ่งเกลียดมาก ถ้ารู้ว่าตัวเองถูกหลอกมาตลอดชีวิต!!!
เรียบเรียงใหม่จากความเห็นของ : ไพร่ฟ้าหน้าดำ
ที่มา : propaganda.forumotion.com
วันเสาร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2551
เรื่องวุ่นวายในราชวงศ์โทนรี ของประเทศโทน
ผู้จัดเก็บบทความ เจ้าน้อย ณ สยาม ที่ 4:32 ก่อนเที่ยง
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
21 ความคิดเห็น:
บทความน่าสนใจ แต่ขาด references ผมก็ถือเป็น bias และขอสรุปว่าเป็นเรื่องแต่ง อาจมีเค้าความจริงอยู่บ้าง แต่แต่งเสริมให้ดูแย่
นั่งเทียนเขียน ไม่มีแหล่งข้อมูลสนับสนุนเลย คิดเองเออเองแล้วเขียนให้น่าเชื่อถือ
ไร้สาระ
บาปบุญคุณโทษมีจริง ไม่รู้ว่าเจตนาและจุุดประสงค์ของเว็ปนี้ คืออะไรแต่ผมรู้ว่าท่านพาดพิงถึงใคร ก็เลย่อยากเตือนสติท่านว่าสิ่งที่ท่านคิดอยู่ในขณะนี้เป็นสิ่งที่ผิดอย่างมาก ท่านเองก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีกษัรติย์องค์ใดในโลกนี้ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดและเป็นกษัตริย์ที่เปี่ยมล้นด้วยคุณธรรมและจริยธรรม ประเทศสงบสุขร่มเย็นมานานก็มิใช่เพราะบารมีของกษัตริย์องค์นี้หรอกหรือ ถ้ามิใช่เพราะความมีพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ บ้านเมืองคงวุ่นวายมาตั้งนานแล้ว ไม่ต้องรอถึงวันนี้หรอก ทบทวนไตร่ตรองดูให้ดี อย่าเอาความสนุกความซะใจของตนเองเป็นที่ตั้ง ...
แล้วคนเขียนบทความนี้ล่ะ เป็นคนดีมากแล้วเหรอ
ถึงได้เอาเวลามาสร้างเรื่องสร้างราวให้คนเขาอ่าน
ระวังไว้ให้ดีนะ กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมคืนสนอง
คำว่าจิตสำนึกในการเป็นคนไทยของคุณมีมากน้อยแค่ไหน
คุณน่าจะตรองดูสักนิด ถ้าคุณเป็น"คนไทย"จริง
ข้อมูลของคุณคนเดียวหรือเปล่าครับ "อย่ามุ่งแต่ทำลาย"
ไม่รู้ว่าเจตนาและจุุดประสงค์ของเว็ปนี้ คืออะไร ท่านเองก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจว่าไม่มีกษัรติย์องค์ใดในโลกนี้ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดและเป็นกษัตริย์ที่เปี่ยมล้นด้วยคุณธรรมและจริยธรรม ประเทศสงบสุขร่มเย็นมานานก็มิใช่เพราะบารมีของกษัตริย์องค์นี้หรอกหรือ ถ้ามิใช่เพราะความมีพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ บ้านเมืองคงวุ่นวายมาตั้งนานแล้ว ไม่ต้องรอถึงวันนี้หรอก ทบทวนไตร่ตรองดูให้ดี อย่าเอาความสนุกความซะใจของตนเองเป็นที่ตั้ง ...
ประเทศชาติร่มเย็นเป็นสุขได้ด้วยพระบารมี
เรารักในหลวง
ไม่ควรเขียนบทความเยี่ยงนี้
ระบบกษัตริย์อยู่คู่กับประเทศไทยมากว่า 700 ปี
ควรหรือที่จะมาล้มล้างกันด้วยเหตุเพียงนี้
มนุษย์ทุกคนมีข้อดี ข้อเสียกันทั้งนั้น
แต่ชั่งน้ำหนักให้ดี ว่าดีกับเลว..อย่างไหนมากกว่ากัน
ยังไง..ท่านก็ยังเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจคนอีกเป็นล้าน
ผมเห็นด้วยมานานแล้วครับแต่ไม่เชื่อตัวเลข แต่อยากรู้ว่าเงินปีได้จริงๆเท่าไหร่
ยังไงสถาบันที่เป็นที่พึ่งของคนไทยได้ทุกยามไม่ว่าจะสุขจะทุกคนไทยก็จะนึกถึงพระมหากษัตริย์เสมอ พระเจ้าอยู่หัวคือที่พึ่งทางจิตใจที่ดีที่สุดเสมอ ผมรักในหลวงและจะดำเนินรอยตามที่ทรงทำพระองค์เป็นแบบอย่าง ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ใครคิดไม่ดีกับพระองค์ขอให้แพ้พ่ายไปในที่สุด
ไอ้ไพร่หน้าดำนี้มันใครวะทำไมต้องเขียนบทความอะไรแบบนี้วะ ขอถามหน่อยคนไทยรึป่าว หรือเกิดมายังไม่รู้สัญชาติตัวเองฮะไอ้เวร คิดอะไรที่สร้างสรรค์กว่านี้คงไม่เป็น ยังไงสถาบันพระมหากษัติย์ก็ไม่เคยทอดทิ้งเราคนไทยเป็นสถาบันที่จะคงอยู่ตลอดไป
"เปลวเทียนละลายแท่นเพื่อเปล่งแสงอันอำไพ ชีวิตคนมลายไปทิ้งสิ่งใดไว้ทดแทน" ขอจงทรงพระเจริญ
ขอให้พระองค์มีพระพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรงเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของประชาชนชาวไทยไปนานนาน
เรารักในหลวงขอให้พระองค์จงทรงพระเจริญ long live the king
เต็มใจถวาย เพราะรักในหลวงมากมาย
เรียนมาตั้งแต่เด็กแล้ว รู้มาก่อนแล้ว ว่าเราแบ่งภาษี ให้เป็นเงืนเอนราชวงศ์ ไม่เห็นแปลกเลย เพราะเราต้องรักษาราชวงศืไว้ แต่คนสามัญชนรอบตัวชอบทำให้ท่านลำบากใจ พึ่งบารมีท่านในทางที่ผิดๆหรือเปล่า
อ่านแล้ว คงจริงมั้งที่มีคนอยากโค่นล้ม...โกรธที่สูญเสียหรือ ชักสงสัย ... อยากมีคนเป็นใหญ่ทั้งนั้นถึงเกิดเรื่องทั้งหมดถ้าไม่มีคนอยากหญ่าย คงไม่มีเรื่องสาดโคลน เงียบเสียตำลึงทอง จะยังไงเราก็รักราชวงศ์ ลูกสามัญชนทั่วไปยังมีดีบ้างไม่ดีบ้าง ปนกันไปก็มนุษย์นี่นาไม่ใช่เทวดา แต่เรารักภาพรวม บางอย่างไม่สมควรเราก็มองไม่เห็นบ้าง ...
รักในหลวง อยากปลดแอกคนจนก็ช่วยคนไทยให้ลืมตาอ้าปากได้ตั้งหลายแบบ ยิ่งคุยว่ารวยส่งภาพค้าเพชร ธุรกิจพันล้านๆๆๆ ทำไม่ไม่ช่วยแบบคืนกำไรสู่สังคมแบบที่ คนรวยฝรั่งเขาทำกัน ให้โดยไม่ต้องมีตำแหน่งใดๆ ไม่ต้องหญ่าย แค่มีเงินเหลือใช้ก็บริจาค ไปช่วยคนจนทั่วโลก...
คนเขียนเว็บนี้ ทำอย่างกับจะไม่มีวันตาย...จะอยู่ค้ำฟ้าเหรอในหลวงทำอะไรให้ตัวเองเหรอถึงเขียนไม่ดีเลย
เขียนให้ตัวเองหรือเขียนแทนคนอื่น ถ้าเขียนแทนคนอื่นถามก่อนว่าในหลวงกับเขาใคร สะสมคุณงามความดี มานานกว่ากัน มาทีหลังแท้ๆ ตอนหนุ่มชีวิตอาจผิดพลาดกันได้ แต่ผิดตอนแก่แก่แล้วคิดไม่ได้นี่น่ากลัวกว่า
ไม่ใช่เพราะ สถานบันพระมหากษัตริย์ มิใช่หรือที่ทำให้ประเทศไทยรอดพ้นมาจากอดีตถึงปัจจุบัน ฯ
แสดงความคิดเห็น