วันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2551

สวนลุมไนท์พลาซ่าอีกหนึ่งตัวอย่างของความพอเพียงของ....


สวนลุมไนท์พลาซ่าคืออีกหนึ่งตัวอย่างของความพอเพียงของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ในการไล่ที่พ่อค้าแม่ค้าหลายพันคนที่ต้องหาค่ำกินเช้าเพื่อนำที่ดินแปลงสวยติดถนนพระราม4 หรือรร.เตรียมทหารเดิม ไปให้นายทุนยักษ์ใหญ่คือกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนา หรือซีพีเอ็น

โดยกลุ่มซีพีเอ็นตั้งใจจะพัฒนาเป็นคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ตามที่กลุ่มนี้ถนัด ไม่ว่าจะเป็นอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า โรงแรม และที่พักอาศัยระดับสูง เพราะพื้นที่อยู่ตรงใจกลางย่านการค้าและธุรกิจของ กทม.นั่นเอง

ความพอเพียงของสำนักงานทรัพย์สินฯกรณีนี้เหมือนกับกรณีเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์หรือปัจจุบันคือเซ็นทรัลเวิลด์เด๊ะๆ อย่างไงอย่างงั้นซึ่งในที่สุดยักษ์ใหญ่เซ็นทรัลพัฒนา ก็ได้ไปครอบครองในที่สุด

ตอนนี้คู่สัญญาเดิมคือพี.คอน ดีเวลล็อปเม้นท์ (ไทย) จำกัด
ได้แพ้คดีสำนักงานทรัพย์สินฯในศาลชั้นต้นแล้ว

แต่อย่างว่าสู้กันถึงฎีกา ก็คงอีก 7-8ปี กว่าจะถึงที่สุด

เห็นเจ้าของปรัชญาพร่ำสอนว่าพอเพียงๆๆๆๆๆๆ
ทำธุรกิจอะไรไม่จำเป็นต้องเอากำไรเยอะๆ ต้องมีคุณธรรม

ทำมั้ยสำนักงานทรัพย์สินฯ ถึงไม่ยอมพอเพียงอย่างที่เจ้าของปรัชญาพร่ำพูดอยู่เสมอล่ะทำมั้ยถึงไม่ยอมต่อสัญญาให้พี.คอน ดีเวลล็อปเม้นท์ (ไทย) จำกัด ทั้งๆที่เขาเป็นผู้เช่าและพัฒนาพื้นที่นี้มาต้งแต่ต้นจนเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และนักช๊อบชาวไทย

และเพื่อที่จะได้ไม่ต้องไปไล่ที่ทำความเดือดร้อนให้พ่อค้าแม่ค้า3000กว่ารายไม่ทราบว่าสาเหตุใดสำนักงานทรัพย์สินฯ โดยดร.จิรายุ ซึ่งเป็นผอ.สำนักงานทรัพย์สินเองนั้นก็ชอบออกมามาทำเป็นสั่งสอนชาวบ้านในเรื่องความพอเพียง

อย่างนี้ใช่มั้ย??ที่สุภาษิตไทยเขาว่ากัน

ว่ามือถือสากปากถือศีล

เอ.หรือปากว่าตาบอดเอ้ยตาขยิบ ลิงชักงงแล้ววุ้ย

ไม่ทราบว่าควรใช้สุภาษิตไหนกันแน่ค๊าบวานผู้รู้ช่วยบอกไอ้ลิงจ๋อทีอะนะคับ เจี๊ยกๆๆๆ


ปล.ไอ้ลิงจ๋อขอเถียงคนที่ชอบพูดว่าไอ้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงนี่มันเข้าใจยากหรือหาคนอธิบายความให้เข้าใจได้ซักคน ลิงจ๋อขอเถียงใจขาดเลย

มันจะไปเข้าใจยากอะไรล่ะคร๊าบ
ก็มีตัวอย่างความพอเพียงให้เห็นๆกันตั้งหลายตัวอย่างแล้วนี่นา

เช่น
สะพานปลากรุงเทพฯ

ที่ดินในซอยหลังสวน

และอีกหนึ่งตัวอย่างสดๆร้อนๆก็สวนลุมไนท์พลาซ่านี่แหละค๊าบ

กราบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ


โดย : เจี๊ยกๆๆ
( Fri Mar 07, 2008 )



ทรัพย์สมบัติพัสถานที่มีอยู่ยังไม่พอเพียงหรืออย่างไร


ไล่ที่สะพานปลากรุงเทพคนตกงานกี่พันคนไล่ที่ที่ซอยหลังสวนอีกกี่ร้อยครอบครัวต้องเดือดร้อนไล่ที่สวนลุมไนท์พลาซ่าพ่อค้าแม่ค้าอีก3000 กว่ารายต้องเดือดร้อน

สรุปราษฎรเป็นหมื่นๆคนต้องเดือดร้อนกลับไม่สนใจสำนักงานทรัพย์สินฯกลับไปห่วงผลประโยชน์สูงสุดที่จะได้รับจากบริษัทยักษ์ใหญ่2-3ราย

ห่วงแต่บริษัทยักษ์ใหญ่2-3รายแทนที่จะห่วงประชาชนเป็นหมื่นๆ

ใช่สำนักงานทรัพย์สินฯเป็นนิติบุคคลปกติคนทำธุรกิจก็ย่อมต้องแสวงหาผลกำไรสูงสุดไม่ผิดหรอกที่สำนักงานทรัพย์สินฯจะทำแบบนี้

แต่มาดัดจริตทำเป็นพูดเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงทำไมเพราะรายได้ของสำนักงานทรัพย์สินฯแต่ละปีมันมากมายมหาศาลอยู่แล้วเหลือจะพอเพียงอยู่แล้ว

มันมีความจำเป็นอะไรที่ต้องทำแบบนี้กับราษฎรพยายามจะทำความเข้าใจเรื่องนี้ให้เข้ากับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงพยายามอย่างไรๆมันก้อไม่เข้าใจอยู่ดี ว่ามันพอเพียงตรงไหนหว่า


โดย : Chiranuch


จาก : ประชาไท : กระทู้ สวนลุมไนท์พลาซ่าอีกหนึ่งตัวอย่างของความพอเพียงของ....

ไม่มีความคิดเห็น: