บันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ : เมื่อทีวีมีชีวิต

"เปลี่ยนสี" ไว้อาลัย "พระพี่นาง"
แต่ยังไม่ลืมสตางค์ค่าสปอนเซอร์
และว่าด้วย ความเศร้าโศก ก็มีชนชั้น

ในระยะ 4-5 วันที่ผ่านมา ประชาชนไทย หรือใครที่อยู่ในประเทศไทย นับว่าโชคดีมากๆ เพราะได้เป็นประจักษ์พยาน กับปรากฏการณ์ทางประวัติศาสตร์ ครั้งแรกของโลก เมื่อทีวี กลายพันธ์ เป็นสิ่งมีชีวิต (บรื้อออ... เหมือนหนังผีญี่ปุ่นเลย น่ากลัววว มาก อิอิ) สามารถ "เปลี่ยนสี" แสดงอารมณ์ออกมาได้ อันเนื่องมาจากการสิ้นพระชนม์ของ "พระพี่นาง"

หรือมิฉะนั้น ทีวีอาจจะไม่ได้มีชีวิตก็ได้ แต่คนควบคุมทีวี มีอาการโรคดัดจริตระบาดอย่างหนัก ทำสิ่งที่เหลือเชื่อ ที่ไม่มีคนที่เหตุมีผลที่ไหนในโลกจะทำกัน - พ่อแม่บังเกิดเกล้าเราตาย เรายังไม่ต้องทำตัวให้เป็น "ขาว-ดำ" มากขนาดนี้เลย (มีใครเลิกดูทีวีสี ตอนพ่อแม่ตายบ้าง?) ยกเว้นแต่จะถือว่า นี่เป็นยุคศักดินาหรือยุคสมบูรณาญาสิทธิราช ที่เจ้านาย เป็นเหมือนเจ้าชีวิต และเราเป็นไพร่ เป็นข้าทาส ไม่ใช่มนุษย์ เวลา "เจ้าชีวิต" ของเราตาย เราก็ต้องทำตัวเหมือนขาดใจตายตามไปด้วย ... มิหนำซ้ำ ยังทำในลักษณะ "ปากว่าตาขยิบ" คือ จะทำ ก็ไม่กล้าทำให้ตลอด ยังต้องเห็นแก่เงินค่าสปอนเซอร์อยู่ ....

ในฐานะนักประวัติศาสตร์ ผมอดไม่ได้ ต้องขอบันทึกปรากฏการณ์ทางประวัติศาสตร์ครั้งแรก ครั้งยิ่งใหญ่ของโลกนี้ไว้ เพื่อว่า อีกหลายสิบปีจากนี้ (อืม.. บางทีอาจจะไม่กี่ปี) เมื่อลูกหลานถาม จะได้มีหลักฐานแสดงให้เห็นได้ มิฉะนั้น ลูกหลานจะหาว่าเราโกหก มีอย่างที่ไหน ทีวีมีชีวิต ...เหอๆๆ

นี่ไง รายการเกมส์โชว์ เปลี่ยนสี เป็นขาวดำ (แต่โปรดสังเกตว่า โลโก้ ช่องนี้ ไม่ยอมเปลี่ยนสี - มีบางช่อง เช่น ทีไอทีวี เปลี่ยนสีด้วย แต่ไม่ใช่ช่องนี้)




ขนาดสารคดีท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆ ที่ปกติต้องเสนอภาพที่สดใส ก็เปลี่ยนเป็นขาว-ดำ ด้วยความเศร้าโศก ฮือๆๆ (แต่โลโก้ช่อง Modern Nine ยัง modern อยู่ครับ)




หนังฝรั่งที่เพิ่งสร้างไม่กี่ปี ก็เลยกลายเป็นหนังโบราณ สี "คลาสสิค" ไป (โลโก้ทีวี ไม่เปลี่ยนสีเช่นกัน)

แต่...

ในขณะที่เรากำลัง "อิน" ดูหนังฝรั่ง หนังไทย ละครน้ำเน่าไทย สารคดี เกมส์โชว์ การ์ตูน สี ขาว-ดำ หรือสีโทนเดียวหม่นๆ ด้วยความเศร้าโศกอย่างสุดซึ้ง (ตามที่คนควบคุมทีวีต้องการ) อยู่นั้น .... ทันใดนั้น แต่น แต๊น น น น .....


โฆษณา คั่น!!!





ครับ เมื่อถึงเวลาโฆษณา สปอนเซอร์ ซึ่งจ่ายตังก์ให้ทีวี นาทีละหลายๆแสนบาท เราก็ต้อง "pragmatic" หน่อยครับ เรื่องเงินๆทองๆ เราต้องยอม "กัดฟัน" ให้เขา มีสีสัน ดังนั้น presenter สุดหล่อของเรา ก็ยังคงหล่อเหมือนเดิม และ เบอร์เกอร์ ก็ยังน่ากิน เหมือนเดิม แหะๆๆ ... ไม่ได้ๆ เราต้องตีหน้าเศร้าไว้ตลอดเวลา แม้แต่เมื่อดูโฆษณาเหล่านี้นะครับ




และแน่นอนว่า ถ้าเป็น สปอตไว้อาลัยพระพี่นาง หรือสารคดีเฉลิมพระเกียรติ ทีวีก็เปลี่ยนกลับมาเป็นสีได้อย่างน่าอัศจรรย์

ผมพยายามหาเหตุผล หรือ rationale อธิบายเรื่องนี้เหมือนกัน เรื่องสปอนเซอร์นี่ ก็อย่างว่าแหละครับ เรามันพวกดัดจริต เห็นแก่สตางค์อยู่แล้ว จะให้ทำท่าไว้ทุกข์ตลอดเวลาได้ยังไง แต่เรื่องสปอตไว้อาลัย กับสารคดีเฉลิมพระเกียรตินี่ สงสัยต้องอธิบายว่า เพราะเราเป็นไพร่ทาส เวลาเจ้าตาย อะไรที่เป็นกิจวัตรปกติของเรา ต้องงดหมด (เลิกหัวเราะ ร้องไห้ เลิก "สนุก") แต่ที่เกี่ยวกับเจ้า (กราบไหว้ บูชา) ต้องทำเหมือนปรกติต่อไป ....

แน่นอนครับ ถ้าเรามีตังก์เองบ้าง - เป็น "คนชั้นกลาง" ขึ้นไป ว่างั้นเหอะ - สามารถติดตั้งเคเบิ้ลทีวีประจำบ้านได้ เราก็สามารถที่จะ "หลบ" ไปดูเคเบิ้ลทีวี ซึ่งไม่เปลี่ยนสีเลย โปรแกรมก็ไม่ต้องเปลี่ยน แล้วปล่อยให้ไอ้พวกชาวบ้านร้านตลาดที่ไม่ค่อยจะมีสะตังก์ ทนดู - เอ๊ย ดูด้วยความโศกเศร้า ซาบซึ้ง - ทีวีขาว-ดำ, โทนสีเดียว ต่อไป




ไม่ว่าจะเป็นรายการข่าว CNN หรือ BBC





หรือหนังซีรีส์ น้ำเน่า สุดฮิต .. อะแฮ่ม เรื่องนี้ นางเอก เซ็กซี่ทั้งนั้น (มีหลายคนด้วย) พระเอกก็สุดหล่อ

ครับ "คนชั้นกลาง" อย่างเรานี่ เวลาแสดงความโศกเศร้า นี่รับรองได้ครับ เต็มๆเลยครับ แต่.....

ขออนุญาต ให้เรามี "บางเวลา" ที่จะเอ็นจอยชีวิตปกติของเราด้วยนะ

เรื่องดัดจริต "ตีหน้า" (หรือ "ตี 2 หน้า") นี่สำคัญมากสำหรับพวกเราครับ


สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล

ที่มา : http://www.thaimisc.com/freewebboard/php/vreply.php?user=thewebboard&topic=20



หมายเหตุ
ผมขอร่วมทำสำเนาบันทึก " ปรากฏการณ์ทางประวัติศาสตร์ "

ครั้งนี้ไว้ด้วยอีกคน
อ่านตอนต้นเรี่องก็ ขำ และฮามาก พออ่านจบ ฮา และขำไม่ออก.