สาธารณรัฐกล้วย(Babana Republic)ตั้งอยู่แถบละตินอเมริกา มีพระราชาธิบดีสมชายครองแผ่นดิน ปกครองไพร่ฟ้าอย่างมีความสุขสืบมา
พระราชาธิบดีกอรปด้วยทศพิธราชธรรม ทรงมีพระราชบุญญาธิการสูงส่งไปด้วยทรัพย์ศฤงคารที่ไม่แน่ชัด นิตยสารฟอร์บสบอกว่ามี5พันล้านเหรียญ ส่วนนักวิชาการสารขัณฑ์ประเทศเปิดเผยในงานวิจัยว่ามี33พันล้านเหรียญ มากกว่าแชมป์เก่าสุลต่านบรูไนที่มีอยู่30พันล้านเหรียญ
อย่างไรก็ดีการจัดการทรัพย์สินนั้นมีสำนักงานจัดการทรัพย์สินส่วนพระราชาบดีจัดการให้ สำนักข่าวต่างประเทศว่าสนง.นี้นำหุ้นและกิจการที่ผูกขาดทรัพยากรแผ่นดิน ไปจดทะเบียนในตลาดหุ้นก็คิดเป็นมูลค่ากว่า10%ของตลาดหลักทรัพย์ของสาธารณรัฐนี้แล้ว
แต่เนื่องจากพระราชาธิบดีกอรปด้วยคุณความดีทรงงานหนักเพื่อพสกนิกร จึงได้ตรากฎหมายให้ยกเว้นการจัดเก็บภาษีทั้งหมด การจัดการทรัพย์สินประหนึ่งว่าเป็นสมบัติแผ่นดิน แต่กฎหมายก็เขียนไว้ให้พระราชาธิบดีนั้นเป็นผู้มีสิทธิ์เด็ดขาดในราชสมบัติแต่ผู้เดียว
แม้ว่าพระราชาธิบดีของสาธารณรัฐกล้วยไม่ต้องจ่ายภาษี แต่เนื่องจากพสกนิกรน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น จึงพากันจัดสรรงบประมาณจากการจัดเก็บภาษีประชาชนทั้งประเทศไปเป็นค่าใช้จ่ายแก่พระราชาธิบดีผ่านสำนักพระราชวังของสาธารณรัฐ คิดเป็นเงินปีละไม่น้อยกว่า2,000ล้านบาท และแฝงอยู่กับหน่วยงานทบวงกรมต่างๆอีกรวมกันไม่น้ยกว่า6,000ล้านบาท กับจัดราชพาหนะเป็นเครื่องบินส่วนตัวให้3ลำ รถยนต์กันกระสุนคันละ100ล้าน เพื่อให้พระราชาธิบดีได้ทุ่มเทพระวรกายเพื่อทรงงานให้แผ่นดิน
การทรงงานนั้นมีชื่อว่าโครงการพระราชาบดีดำริ ส่วนใหญ่เป็นด้านกสิกรรม จัดเป็นโครงการตัวอย่างที่นเงินงบประมาณแผ่นดินไปจัดทำทั้งสิ้น แต่ก็หาได้ขยายผลไปในขอบเขตปริมณฑลของประเทศแต่อย่างใด ทว่าฝ่ายการประชาสัมพันธ์ได้ทุ่มเทประชาสัมพันธ์ผ่านช่วงทีวีไพรม์ไทม์ และขึ้นป้ายกับซุ้มเฉลิมพระเกียรติไปทั่วแว่นแคว้น
แม้พระราชาธิบดีจะประสบความสำเร็จคือได้ผลดังใจหมาย มีพสกนิกรแซ่ซ้อง แต่ก็ต้องทุกข์พระราชหฤทัยเพราะครอบครัวไม่เป็นสุข โอรสธิดาล้มเหลวในชีวิตครอบครัวไปทั้งสิ้น แต่เพื่อให้พสกนิกรได้เห็นแต่ด้านดี จึงมีธรรมเนียมให้ออกข่าวการพระราชกิจของพระราชาธิบดีและลูกหลานผ่านสื่อต่างๆให้เห็นว่าแต่ละคนมีราชอัจริยภาพสูงเหนือมนุษย์ โดยส่วนใหญ่เป็นการเดินทางไปทัวร์เมืองนอก แล้วออกข่าวทวงคุณราษฎรว่าเหน็ดเหนื่อยทุกข์ยากพระวรกาย ทั้งที่ก็ใช้ภาษีไปเพื่อการนี้ทั้งสิ้น
พระราชาธิบดีเห็นเภทภัยของความมั่งมีและครอบครัวไม่อยู่สุข จึงหันหน้าไปหาแมวทรงเลี้ยงอย่างเปลี่ยวพระเอกา และสอนพสกนิกรว่าความมั่งมีเป็นเรื่องผิดบาป การเห็นแก่ตัวย่อมชั่วร้าย ขอให้ทุกคนอยู่อย่างสมถะ และเห็นแก่ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง กับให้หันมาเลี้ยงแมวดีกว่ายุ่งกับครอบครัวผัวเมียละเหื่ยใจ
ส่วนการปกครองบ้านเมืองนั้น มีการตราพระธรรมนูญให้ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย ให้ราษฎรเลือกตั้งคนของตนขึ้นมาบริหารประเทศ แต่เนื่องจากทรงเล็งเห็นว่านักการเมืองนั้นชั่ว ขี้ฉ้อ ราษฎรเองก็โง่อยู่ ขาดปัญญาจะเลือกผู้มีความสามารถ จึงต้องให้ทหารของพระราชาธิบดีปฏิวัติขับไล่กันเรื่อยไป จะหาใครในแผ่นดินรักประเทศและทุ่มเทให้ราษฎรแท้จริงเท่าพระราชาธิบดีหามีไม่
ราษฎรโดยมากกว่า99%ของสาธารณรัฐกล้วยต่างก็รักเทิดทูนพระราชาธิบดีของตนมากชนิดยอมตายแทนได้ และว่าไม่มีประเทศไหนในโลกโชคดีเท่ากับสาธารณรัฐกล้วยอีกแล้ว
ผู้เขียนไปพบเจอมาก็เลยนำความประหลาดพิสดารของประเทศนี้มาเล่าสู่กันฟังก็เท่านี้แล
กิ๊กผม..เธอเป็นยอดมนุษย์
ที่มา : กระดานสนทนา "ฟ้าเดียวกัน" : เรื่องของพระราชาธิบดีแห่งสาธาธารณรัฐกล้วย, ผมไม่เกี่ยวนะ แค่copyมาจากประชาไท
หมายเหตุ
การเน้นข้อความทำโดยความเห็นของผู้จัดเก็บบทความ และ สามารถดูตัวอย่างรุ่นของเครื่องบินได้ตามนี้ เพราะคล้ายคลึงกับของบ้านเรามาก : เครื่องบินพระราชพาหนะฯ
วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2551
เรื่องของพระราชาธิบดีแห่งสาธาธารณรัฐกล้วย
ผู้จัดเก็บบทความ เจ้าน้อย ณ สยาม ที่ 10:06 หลังเที่ยง
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น