ในช่วงระยะสองสามอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ ผมแทบไม่ได้เปิดหนังสือพิมพ์เท่าไร แต่พอมีเวลาว่างก็ลองทบทวนข่าวสารดูบ้าง พอดีไปสะดุดใจกับคำว่า สิ้นสถาบันคือสิ้นชาติ บนหน้าหนังสือพิมพ์หัวเขียวฉบับหนึง และดูเหมือนจะเป็นกระแสไฟลามทุ่งออกไปโดยไม่ช้านานเท่าใดนัก
ผมเลยมานั่งๆคิดดูว่า เออ นี่เขาเรียกการผลิตซ้ำความคิดใช่หรือไม่
เรามักคุ้นชินกับการยกย่องสถาบันว่า อยุ่ในสถานะอันล่วงละเมิดมิได้ แต่ดูเหมือนในระยะที่ผ่านมาตอนนี้ กลับมีความเข้มข้นของกระบวนการผลิตซ้ำออกมามากกว่าปกติและดูเหมือนจะมีความพยายามสร้างวาทกรรมแบบใหม่ขึ้นมาเสียอีกด้วย
นั่นคือการหลอมรวมรัฐ ประชาชน และสถาบันไว้เป็นองก์เดียวกัน
จะว่าใหม่หรือไม่มันก็ไม่เชิงใหม่ ปรากฏการณ์เช่นเดียวกันนี้เคยแผลงฤทธิ์ที่จุฬาฯมาแล้ว เมื่อคราวจิตรโดนโยนบกเพียงแต่มันหายไปจากสังคมไทยนาน นานพอที่จะทำให้กลุ่มอ้างอิงของสถาบันนั้นมั่นใจในความมั่นคงของสถานะขึ้นมาได้
ทีนี้คำถามของผมคือจริงหรือและสมควรแล้วหรือไม่ ที่จะมีการสร้างกระแส "องค์รวม" ของความคิดแบบพิลึกพิลั่นขึ้นมาอีกครั้งในสังคมไทยองค์รวมคือสถาบันนั้นสูงสุดและแตะต้อง(อาจรวมถึงวิพากษ์ คิดต่าง ไม่เคารพ ฯลฯ)ไม่ได้ การแตะต้องนั้นคือการกระทำผิดกฏหมาย ถึงไม่ผิดกฏหมาย ก็ผิดจารีตคือดึงเอาเรื่องศีลธรรมเข้ามาเกี่ยวให้อีรุงตุงนังไปหมด
ดูไปก็คล้ายสังคมไทยสมัยพระยาลิไทยไม่มีผิด ซึ่งถ้าจะเขียนว่าเตภูมิกถา คือกฏหมายหมิ่นฯฉบับแรกก็คงไม่ผิดนัก เพราะเล่นตราความผิดบาปของผูที่ไม่ภักดีเสียน่าหวาดสยองทางศีลธรรม
ครับ วาทกรรมว่า สถาบัน รัฐ ประชาชนเป็นหนึ่งเดียวกัน ได้ถูกขยายความจากสื่อขึ้นไปอีกว่า หากสถาบันสั่นคลอนหรือมีอันถูกกระทบด้วยแรงเหวี่ยงจากอะไรก็ตามที และหากวันใดไม่มีสถาบัน ย่อมหมายถึงการสิ้นชาติสิ้นแผ่นดินกันนั้นเลยทีเดียว(นัยว่าแผ่นดินอาจจะจมลงทะเลเพราะไม่มีพลัง(ภายใน)แผ่นดินคอยค้ำไว้)
ซึ่งผมอยากถามท่านผู้รู้เหลือเกินว่า จริงหรือ เป็นดั่งนั้นจริงๆหรือ
ว่าหากไม่มีสิ่งนั้น หรือสิ่งนั้นสั่นคลอนลงไป ประชาชนและรัฐชาติจะต้องล่มสลายตามไปโดยพลันอย่างนั้นจริงหรือและหากวาทกรรมนี้แพร่หลายจนกลายเป็นความเชื่อมั่น ยึดมั่นถือมั่นของใครต่อใคร จะเกิดผลอะไรขึ้นกับสังคมไทยในยาม "ที่สุดของอายุขัยในฐานะมนุษย์"
ผมเก็บเอาความคิดคำถามเหล่านี้ติดตัวมาหลายวันโดยไม่ได้ถามใคร จนกระทั่งเมื่อวานได้ขึ้นแท๊ซี่เพื่อไปทำงานที่มหาลัยตามปกติจึงได้ลองเลียบๆเคียงๆถามพี่แท๊กซี่คนขับถึงประเด็นนี้ ทั้งๆที่ไม่แน่ใจว่าจะโดนอะไรบ้าง(เช่นโดนถีบจากรถ โดนเลี้ยวพาเข้าป้อมตำรวจข้อหาหมิ่นฯทางความคิด ฯลฯ)
แต่ก็เปล่าเลย พี่แท๊กซี่ทำหน้าตกใจแล้วก็พูดขึ้นว่า
" เฮ้ย จะสิ้นชาติได้ยังไง คนจะตายน่ะมันก็คนตาย เราก็ต้องทำมาหากินกันต่อไป ยังไงก็มีลูกมีหลาน ก็ต่อๆไปกันเองแหละ ประเทศมันจะสิ้นได้ยังไง ผมไม่เข้าใจ "
ครับ นั่นคือคำตอบแรกที่ผมได้ ซึ่งหลายท่านอาจจะบริภาษผมว่าแต่งขึ้นมาก็ไม่เป็นไร ผมกล้าสาบานได้ว่าผมพูดจริงแล้วคำตอบในใจของพวกท่านล่ะครับ คืออะไร?
ชาติไทยประเทศไทย มันเปราะบางขนาดนั้นทีเดียวหรือ
ดับแสงเดือน
(แสงจันทร์สูญสลาย)
ที่มา : กระดานสนทนา"ฟ้าเดียวกัน" : ว่าด้วยวาทกรรม กษัตริย์ รัฐชาติ และคำตอบของคนขับแท๊กซี่คนหนึ่ง, ประเด็นเก็บตกจากท้องถนนครับ เชิญแสดงความเห็น
หมายเหตุ
การเน้นข้อความบางส่วนทำไปโดยความเห็นของผู้จัดเก็บบทความ
วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2551
ว่าด้วยวาทกรรม กษัตริย์ รัฐชาติ และคำตอบของคนขับแท๊กซี่คนหนึ่ง
ผู้จัดเก็บบทความ เจ้าน้อย ณ สยาม ที่ 9:13 หลังเที่ยง
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น