วันเสาร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2551

แน่นอนว่าปฏิวัติ "ถ้า"


จะมีปฏิวัติหรือไม่

มีเพื่อนๆสมาชิก ถามกันมามาก ว่าจะมีปฏิวัติกันอีกรอบหรือไม่ เพราะดูเหมือนว่า ผมจะเป็นคนแรกที่ออกมาเตือนสังคม ว่าทหารกำลังเตรียมปฏิวัติ กันแล้ว เมื่อครั้ง 19 September โดยอ้างถึงแหล่งข่าวฝ่ายทหาร และก็ไปโพสคำเตือนไว้ในพันทิพย์ ให้ได้เห็นกันไปทั่ว มาคราวนี้ เห็นนายกสมัคร ปฏิเสท ว่าไม่มีแน่ แล้วก็โกรธ ที่มีแต่นักข่าว ถามถึงเรื่องนี้เช้าสายบ่ายเย็น ตลอดเวลา จนจำเจซ้ำซาก ผมก็ชักจะสงสัยเหมือนกัน ว่ามันจะปฏิวัติกันอีกรอบหรือเปล่า ก็โทรเข้าไปถามเพื่อนคนเดิม ที่
กอรมน นั่นหล่ะ ว่าเอาไงกัน จะปฏิวัติกันอีกแล้วหรือ ยังไม่เข็ดอีกหรือ ไอ้เจ้าเล็ก มือฉมัง 30 ปีที่ กอรมน ที่แหล่งข่าวเพียบ ก็บอกมา ว่าตอนนี้ กอรมน เชื่อว่า จะมีการปฏิวัติ กัน 50%-50% คือออกหัวก็ได้ ออกก้อยก็ได้ แต่ถ้าถามว่า “วางแผนปฏิวัติกันหรือยัง” คำตอบคือ


วางแผนกันแล้ว แล้วแผนเสร็จแล้ว


แผนใหม่นี้เหมือนสมัย รสช “อย่างกับแกะ” ไม่เหมือนสมัย คมช
“ที่เป็นแค่เงา รสช” ว่ากันว่า แผนของสมัย รสช นั้นเป็นแผนปฏิวัติและยึดอำนาจไว้ “ที่ดีที่สุด” เท่าที่เคยมีมา คือถ้าไม่ใช่ จปร 5 และ 7 แตกคอกันแล้ว ป่านนี้ ยังอาจจะอยู่ใต้การปกครองของ รสช กันอยู่เลย กอรมน เขาว่ามาอย่างนั้น สำหรับคนหนุ่มสาวที่อาจจะไม่รู้เรื่อง รสช ก็ไม่มีอะไรมาก เหมือนทักษิณนะ คนที่ถูกไล่ออกไปคือ ชาติชาย ที่มีมุมมองว่าจะพัฒนาไทยเร็วๆ แต่ปัญหาก็คือ มีคำกล่าวหาว่าโกงมาก ก็คือ “Buffe Cabinet” แล้วก็เรื่อง จะมีการลอบสังหารในหลวง ก็เหมือนๆทักษิณโดนนะ ต่างกันคือ รสช นั้น “รุนแรงและมั่นคง” กว่า คมช มากมายนัก เรียกว่า นักการเมืองต้องหนีออกนอกประเทศกันเลย ที่ไม่หนีหรือหนีไม่ทัน ก็ถูกยึดทรัพย์กันไป แล้วพอถูกไล่ออกจากอำนาจ ก็ไปเอา อานัน ปันยารชุน มาเป็นนายก ระหว่างรอเลือกตั้ง อานันก็คืออานัน เท่าที่จำได้ เป็นคนออก Vat ออกมา แล้วก็เข้าไปจัดการ อุตสาหกรรม โทรคม ภาคเอกชน ที่กำลังจะเกิดกันตอนนั้น จัดการยังไงไม่รู้ ประมูลกันแบบไม่กลัวพังขอให้ได้กันอย่างเดียว จนสิบปีให้หลัง พังกันเป็นแถบต้องวิ่งมาขอปรับสัญญา ส่วน รสช ก็ได้ดิบได้ดี รวยๆกันไปทุกคน ก็เหมือนกับ คมช ไม่มีผิด ต่างกันคือ รสช คนยังเคารพกันมาก เพราะพอหมดอำนาจ ก็วางมือจริงๆ จนคนมองว่ารู้แพ้รู้ชนะ เป็นสุภาพบุรุษ ไม่เหมือนตอนนี้ที่แพ้แล้วยัง “กร่าง”


ปัญหาที่ทำให้ไม่ปฏิวัติกันไปแล้ว ก็เพราะ พี่ลิ้มและปชป ยังชงเรื่องให้ ไม่ถึงระดับร้อนแรงพอ เอามาอ้างปฏิวัติได้ นั้นคือประการแรกที่คนแบบผมยังเขียนได้อยู่ทุกวันนี้ ส่วนที่สองคือ สมัยทักษิณ แนวรบของทักษิณกระเจิงจนไม่เหลือซาก แต่ตอนนี้ นักประชาธิปไตย สายทักษิณ แรงๆและแข็งๆทั้งนั้น รวมไปถึงการยอมรับแล้วว่า 90% ของคนอีสาน 70% ของคนเหนือ 40% ของคนภาคกลาง 25% ของคนกรุงเทพ ไม่มีทางทำให้เปลี่ยนขั้วไปจากทักษิณได้ ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ตาม


แล้วแผนเป็นยังไง ตรงนี้เพื่อนบอกมาไม่มาก แต่เหมือน รสช คือ คนจะต้องหนี ออกนอกประเทศมากมาย โดยเฉพาะแกนนำด้านประชาธิปไตยทั้งหมด จะไม่มีแผ่นดินไทยเดินอีกนานพอดู เรียกว่าพอๆกับการล้างบางสมัย 14 และ 16 ตุลาเลยหล่ะ แบบผมก็แน่นอนว่าต้องไปอยู่กำพูชา 100% เพราะไม่มีเงินไปประเทศตะวันตก สิ่งที่สองคือ ยึดทรัพย์และแช่แข็งพรรคการเมือง แบบข้ามคืน ทิ้งไว้ก็แต่พรรค ปชป ที่จะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลเผด็จการ และอันไหนก้ได้ที่กลับตัวกลับใจมาสนับสนุนรัฐบาลเผด็จการ ส่วน สส และ สว จะมีการแต่งตั้งโดยคณะแบบ สสร แบบที่เอามาเขียน รธน ปี 50 น่ะ คือคนวงในที่คิดเหมือนกัน แต่ให้คนอยากเป็น สส และ สว วิ่งเต้นเพื่อตำแหน่งกันได้ ก็หาเงินและกระจายเส้นสายกันไปแบบเผด็จการถนัดน่ะครับ


ที่น่ากลัวที่สุดคือข่าวลือวงในคณะปฏิวัติลึกๆ ว่าอาจจะมีการ
“ประหารชีวิต” กันสัก 10 คนเพื่อให้คนกลัวกันไปทั้งประเทศ คนที่จะโดนก็แน่นอน ทักษิณ สมัคร หมอเหวง และพวกแรงๆระดับนั้นอีกหลายคน แต่ตอนนี้ข่าวออกมาคือยังไม่แน่ อาจจะเพียงเข้าคุกกันไปเรื่อยๆ ส่วนในรายละเอียด ก็คล้ายๆ คมช คือเรียกสื่อมารับนโยบาย แล้วขู่ไว้ อินเตอร์เน็ต จะถูกปิดกั้นเหมือนเดิม การคมนาคมของคนโดยเฉพาะอีสานและเหนือจะถูกเฝ้ามองและมีด่านสกัด สถาวะฉุกเฉินก็ประกาศไว้ในที่ต่างๆ กฎหมายจะได้ใช้ไม่ได้ และอื่นๆแบบนั้นนะครับ ที่มาเป็นชุดๆ


สรุปสักหน่อย ที่มัน 50%-50% ก็เพราะแนวต้านมันเกาะกลุ่มกันเหนียวมากตอนนี้ ถ้าจะทำมันต้องใช้ความรุนแรงและเด็ดขาดมาก และสุดท้าย แรงมากๆ ก็จะเจอกระแสโลก แบบ รสช เจอ กลุ่มแรงงานทำงานท่าเรื่องใน New York ปฏิเสทที่จะขนถ่ายสินค้าจากประเทศไทย คือถ้าแรงไป แล้วโลกต่อต้าน แล้วเศรษฐกิจไทย ย่อยยับ นักธุรกิจคงจะถือ iPod และ iPhone ออกมาประท้วงกันแน่ เหมือน ม๊อบไล่ รสช ที่เรียกกันว่า ม๊อบมือถือ แต่ถ้าจะให้สรุปว่า แล้วทำไมถึงจะทำกัน เพื่อนที่ กอรมน ก็บอกมาตรงๆ มันอยู่ในสันดานของทหารที่จะลุแก่อำนาจอยู่แล้ว แล้วพอพี่ลิ้ม แกออกมาปลุกและสร้างจังหวะให้ แบบขอกันตรงๆว่าทหารอย่าอยู่เฉยๆเลย มาช่วยประชาชน (ของกู) ดีกว่า “มันก็อดฉกฉวย” กันไม่ได้ ดูแบบ สุรยุทธิ และ เปรม เป็นตัวอย่าง ทุกวันนี้ ยังรุ่งเอารุ่งเอา ไม่มีทีท่าว่าจะเสียหายอะไรเลย พี่บังก็เฉย เตรียมเล่นการเมืองเวลาจังหวะให้ก็เท่านั้นเอง รวยไม่รู้จะยังไงแล้ว ทั้งที่ พึ่งยึดอำนาจมาสดๆร้อนๆ


ก็เหมือนเดิม ท่านผู้อ่านไม่ชอบให้ผมหยุดอยู่ตรงนั้นแน่ แล้วคงถามกันมาว่าผมนั้นมองยังไง ผมก็ต้องขอบอกนะครับ ว่ามันไม่ได้อยู่กับ พี่ลิ้มคนเดียว แต่มันอยู่กับ ฝ่ายนักประชาธิปไตยและรัฐบาลด้วย ถ้าฝ่ายเราแตกคอกัน ไม่เป็นเอกภาพ และ อ่อนแอ ก็แน่นอนว่า ปฏิวัติแน่ๆ 100% แต่ถ้าฝ่ายเรา “มุ่งมั่นที่จะปกป้องประชาธิปไตย” มันก็ยากที่ใครจะมาโจมตีเราได้ และนี่ก็คือวิธีคิดของทหารครับ


Thai Journalist Democratic Front


ที่มา : Thai Journalist Democratic Front : แน่นอนว่าปฏิวัติ "ถ้า"

หมายเหตุ
การเน้นข้อความทำตามความเห็นของผู้จัดเก็บบทความ

ไม่มีความคิดเห็น: