วันศุกร์ที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2551

Thailand and the Coup for the Rich : ประเทศไทยและรัฐประหารเพื่อคนรวย



asia Sentinel

Thailand and the Coup for the Rich

Written by Giles Ji Ungpakorn
Tuesday, 02 December 2008


แปลโดย : invisible hands


ประเทศไทยและรัฐประหารเพื่อคนรวย


เป็นไปตามคาดหมาย ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย


าลรัฐธรรมนูญของประเทศไทยตัดสินยุบพรรคการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยเป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันอังคารนี้ ทำให้รัฐบาลต้องลาออก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่กองทัพและตำรวจปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลให้ยึดสนามบินนานาชาติทั้งสองซึ่งถูกยึดโดยกลุ่มพันธมิตรฟาสซิสต์คืน

กลุ่มนิยมเจ้าต่อต้านรัฐบาลประกอบด้วยพันธมิตรฟาสซิสต์ ทหาร ตำรวจ ตุลาการ สื่อกระแสหลัก พรรคประชาธิปัตย์ นักวิชาการชนชั้นกลางส่วนใหญ่ และ ....... พวกเขาอยู่เบื้องหลังการรัฐประหารโดยตุลาการครั้งนี้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เป็นหนึ่งในแกนนำกลุ่มนอกกฎหมายที่ทำการปิดสนามบินในกรุงเทพฯทั้ง 2 แห่ง

พันธมิตรฯเสื้อเหลืองมีการ์ดติดอาวุธยิงปืนใส่ศัตรูอยู่เสมอ พวกเขาใช้ความรุนแรงเป็นประจำและเรียกร้องให้มี"การดูแลความปลอดภัยร่วม"กับตำรวจ พันธมิตรฯละเมิดกฎหมายอยู่เสมอ แต่ก็ไม่มีใครทำอะไรเขาได้ แม้นานๆครั้งพวกเขาจะต้องไปขึ้นศาล พวกเขาก็จะได้รับประกันตัวและอนุญาตให้กลับไปก่ออาชญากรรมเดิมๆซ้ำแล้วซ้ำเล่าเสมอมา


คนไทยส่วนใหญ่ซึ่งเป็นคนจนต้องรับเคราะห์ซ้ำกรรมซัด อันดับแรก พวกนิยมเจ้าชนชั้นสูงกำลังทำทุกสิ่งทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อพรากสิทธิพื้นฐานในระบอบประชาธิปไตยไปจากพวกเขา อันดับสอง คนงานจำนวนมากในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกำลังตกงานเนื่องจากการปิดสนามบิน ภาคเกษตรกรรมและอิเล็กทรอนิกส์ต่างก็ได้รับผลกระทบเช่นกันและพวกเราก็กำลังเผชิญหน้ากับวิกฤติเศรษฐกิจโลกขั้นรุนแรง พวกชนชั้นสูงไม่สนใจว่าเศรษฐกิจไทยจะถูกทำลายเพียงใดหรือประเทศไทยจะกลับไปเป็นประเทศโลกที่ 3 หรือไม่ ในประเทศโลกที่ 3 พวกชนชั้นสูงต่างก็มีชีวิตเช่นเดียวกับคนรวยในประเทศที่พัฒนาแล้ว พันธมิตรฯเป็นพวกชนชั้นกลางหัวรุนแรงที่ไม่จำเป็นต้องไปทำงาน ด้วยเหตุนั้นพวกเขาจึงชุมนุมอย่างยืดเยื้อ

เราได้รับการบอกกล่าวจากพวกหัวอนุรักษ์อยู่เสมอว่าคนจนโง่เกินกว่าที่ควรจะมีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้ง กองทัพทำรัฐประหารใน พ.ศ. 2549 และเขียนรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่เพื่อลดพื้นที่ทางประชาธิปไตยและเพื่อนิรโทษกรรมให้ตัวพวกเขาเอง ประชาชนได้เลือกพรรครัฐบาลเข้ามาบริหารด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นหลายครั้งหลายหน ไม่ว่าจะเป็นพรรคไทยรักไทยของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร หรือพรรคพลังประชาชนที่รับช่วงต่อ ตอนนี้ นักการเมืองของพรรคพลังประชาชนกำลังย้ายไปพรรคใหม่ชื่อพรรคเพื่อไทย การเลือกตั้งที่ยุติธรรมจะเกิดขึ้นหรือไม่? หรือพวกชนชั้นสูงจะวางแผน"แก้ไข"เพื่อทำให้คนของพวกเขาชนะ?


อะไรคือสาเหตุของวิกฤติครั้งนี้?

ต้นเหตุของวิกฤติครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องการคอรัปชันของรัฐบาลทักษิณในอดีต ไม่ใช่เรื่องการซื้อเสียง, ธรรมาภิบาล, สิทธิพลเมือง, หรือหลักนิติรัฐ นักการเมืองทุกพรรครวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์เป็นที่รู้กันดีว่าซื้อเสียงทั้งนั้น พวกชนชั้นสูงไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง ข้าราชการ หรือทหาร ต่างก็มีประวัติคอรัปชันอย่างน่าสะอิดสะเอียน แม้เมื่อพวกเขาไม่ได้ทำผิดกฎหมาย พวกเขาก็รวยด้วยการทำนาบนหลังแรงงานและชาวนายากจน พรรคประชาธิปัตย์เต็มไปด้วยเศรษฐีเหล่านั้น

เป็นเรื่องประหลาดที่พรรคไทยรักไทยกลับทำให้การซื้อเสียงลดความสำคัญลงเพราะมันเป็นพรรคแรกในรอบหลายทศวรรษที่มีนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อคนยากจนอย่างแท้จริง พวกเขาริเริ่มนโยบายประกันสุขภาพแบบครอบคลุมและนโยบายกองทุนหมู่บ้านแบบเศรษศาสตร์สำนักเคนส์ ประชาชนเลือกพวกเขาด้วยนโยบายเหล่านี้ พรรคประชาธิปัตย์และพวกชนชั้นสูงหัวอนุรักษ์เกลียดการร่วมมือระหว่างพรรคของทักษิณกับคนยากจน พวกเขาเกลียดความคิดที่รัฐบาลจะใช้งบประมาณสาธารณะเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนยากจน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เครือข่ายต่อต้านรัฐบาลจึงเป็นเครือข่ายต่อต้านประชาธิปไตย พันธมิตรฯได้แนะนำให้ลดจำนวน ส.ส. ที่มาจากการเลือกตั้งและยื่นข้อเสนอให้ยกเลิกหลักการ"หนึ่งคน หนึ่งเสียง" ดังนั้นต้นเหตุของปัญหาก็คือการที่ชนชั้นสูงอนุรักษ์ดูถูกเหยียดหยามคนจนและรังเกียจประชาธิปไตย พวกเขาพร้อมที่จะละเมิดกฎหมายเมื่อมันเป็นประโยชน์ต่อพวกเขา


อะไรคือทางออก?

พวกนักธุรกิจและชนชั้นสูงนิยมเจ้ากำลังเรียกร้องรัฐบาลแห่งชาติที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์"รับอาสา"เป็นนายกรัฐมนตรี! รัฐบาลแห่งชาติจะทำให้การรัฐประหารโดยตุลาการเพื่อคนร่ำรวยเสร็จสมบูรณ์ มันจะเป็นชัยชนะของพันธมิตรฯและเป็นความพ่ายแพ้ของผู้เลือกตั้ง

กลุ่มเสื้อแดงที่ก่อตั้งโดยนักการเมืองฝ่ายรัฐบาลเป็นความหวังเดียวของประชาธิปไตยไทย พวกเขาตอนนี้เป็นกลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตยเพื่อคนจนโดยแท้จริง นี่คือสิ่งที่เรียกว่า "ประชาสังคม" หาใช่พวกพันธมิตรฟาสซิสต์ไม่ นักวิชาการไทยไม่เข้าใจข้อเท็จจริงพื้นฐานข้อนี้ แต่กลุ่มเสื้อแดงก็ไม่ใช่กลุ่มที่มีความเห็นเดียว หลายคนมีภาพลวงตาเกี่ยวกับอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร พวกเขามองข้ามการละเมิดสิทธิมนุษยชนในภาคใต้และสงครามยาเสพติด ซึ่งประชาชนหลายร้อยคนถูกยิงเพราะเป็นผู้ค้ายาโดยปราศจากการจับกุม ตัดสินหรือพิสูจน์ แต่ประเด็นสิทธิมนุษยชนเหล่านี้ก็ถูกละเลยอย่างสิ้นเชิงโดยพวกพันธมิตรฯและเครือข่ายของเขาด้วยเช่นกัน

ตลอดวิกฤติที่ยาวนานกว่าสามปีนี้ ขบวนการเอ็นจีโอไทยส่วนใหญ่ (โดยเฉพาะคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน) ต่างล้มเหลวในการสนับสนุนประชาธิปไตย พวกเขาหลายคนอ้าแขนรับรัฐประหาร พ.ศ. 2549 ด้วยความยินดี หลายคนสนับสนุนรัฐธรรมนูญของทหาร ตอนนี้พวกเขากำลังเงียบหรือไม่ก็พูดย้ำข้อเสนอของผู้บัญชาการทหารบก ที่พูดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่ารัฐบาลควรลาออก

พวกเขาไม่เคยพยายามสร้างขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมที่สนับสนุนประชาธิปไตย หลายคนเชื่อว่าคนจน "ไร้การศึกษา" และขาดข้อมูลเพียงพอที่จะเลือกตั้ง ตัวอย่างที่น่านับถือได้แก่มหาวิทยาลัยเที่ยงคืนที่เชียงใหม่ บางส่วนของขบวนการแรงงาน และกลุ่มนักกิจกรรมเอ็นจีโอรุ่นใหม่ๆ และกลุ่มเลี้ยวซ้าย


วิกฤติเศรษฐกิจ

คนหลายล้านคนต้องสูญเสียงานเพราะวิกฤติเศรษฐกิจโลกและความวุ่นวายในสังคมไทย ผู้คนถูกผลักกลับไปสู่ความยากจน แต่กระนั้น พรรคประชาธิปัตย์ ทหาร ชนชั้นสูงนิยมเจ้า และเอ็นจีโอกระแสหลัก ก็ไม่เข้าใจหรือไม่แยแสเรื่องนโยบายที่จะปกป้องคุณภาพชีวิตของคนจนแม้แต่นิดเดียว พวกเขาพร่ำสรรเสริญเศรษฐกิจพอเพียงของพระเจ้าอยู่หัวและความจำเป็นเรื่องวินัยทางการคลัง พูดง่ายๆก็คือคนจนต้องลดรายจ่ายของเขาและเรียนรู้ที่จะมีชีวิตอยู่กับความยากจน ในขณะที่คนรวยก็มีชีวิตอยู่อย่างหรูหราต่อไป

พวกเราเรียกร้องให้รัฐใช้จ่ายกับถนนหนทาง การปกป้องงาน และการเพิ่มสวัสดิการ อย่างหมดหวัง ภาษีมูลค่าเพิ่มควรจะต้องถูกลดหรือกำจัดให้หมดไป และควรเรียกเก็บภาษีชนชั้นสูงที่ร่ำรวยให้สูงขึ้นอย่างไม่มีข้อยกเว้น งบทหารมหาศาลควรถูกตัด ค่าแรงควรเพิ่ม ชาวนายากจนควรได้รับการปกป้อง สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ในบรรยากาศประชาธิปไตยที่แท้จริงเท่านั้น นี่เป็นเหตุผลที่เราต้องต่อต้าน"รัฐประหารเพื่อคนรวย"ครั้งที่ 2 ครั้งนี้


รศ.ใจ อึ๊งภากรณ์

2 ธ.ค. 2551


ที่มา : เวบบอร์ด"ฟ้าเดียวกัน" : บทความของ ใจ อึ๊งภากรณ์ ใน Asia Sentinel เรื่องล่าสุด (2 ธ.ค. 2551), "the judicial coup for the rich"

หมายเหตุ
การเน้นข้อความทำโดยความเห็นของผู้จัดเก็บบทความ

ไม่มีความคิดเห็น: