Los Angeles Times
Bhumibol, Thailand's remarkable king
The 81-year-old built up, and now wields,
considerable power over his country.
By W. Scott Thompson
แปลไทยจาก : thaireport.blogspot.com
ภูมิพล กษัตริย์ที่น่าทึ่งของไทย
ทูตชาวตะวันตกผู้เฉลียวฉลาดคนหนึ่งให้ความเห็นว่าเมืองไทยได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เขาแสดงมุมมองทั่วไปเกี่ยวกับวิกฤติปัจจุบันว่านี่เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่กษัตริย์ภูมิพลอดุลยเดชไม่สามารถทำให้สงบเหมือนดังที่เขาได้ทำมาในวิกฤติการณ์ทางการเมืองทุกครั้งตลอด 62 ปีแห่งการครองราชย์ ท้ายที่สุด ผู้ประท้วงรัฐบาลหลายพันคนก็ปิดสนามบินสำเร็จเป็นเวลาหลายวัน ทำให้นักท่องเที่ยว 300,000 คนติดอยู่ในประเทศ และศาลรัฐธรรมนูญก็ตัดสินยุบพรรครัฐบาลและตัดสิทธิทางการเมืองของนายกรัฐมนตรีสมชาย วงสวัสดิ์ เป็นเวลา 5 ปี นอกจากนี้ แม้ว่าอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร พี่เขยของสมชาย และศัตรูที่น่าสะพึงกลัวของกษัตริย์จะอยู่ในระหว่างการหลบหนี เขาก็ยังคงได้รับความนิยมจากในชนบท และยังคงมีเงินหลายพันล้านดอลลาร์ และมีผู้ที่อยู่ในกฎหมายอีกมากมายที่จะเป็นตัวแทนของเขาในประเทศไทย
ประเทศไทยไม่ค่อยเหมือนกับประเทศอื่น ๆ ตั้งแต่ พ.ศ. 2475 กษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญครองราชย์ด้วยด้วยอำนาจที่ไม่ชัดเจนนัก แต่กษัตริย์องค์ปัจจุบันได้ทะยานขึ้นสู่จุดที่เกือบจะเป็นมีอำนาจ "เด็ดขาดสมบูรณ์" เหมือนปู่ของเขา การเมืองตั้งแต่กษัตริย์ภูมิพลก้าวสู่ราชบัลลังก์ใน พ.ศ. 2489 เป็นการเมืองที่มีรัฐธรรมนูญแบบตะวันตกและมีการเลือกตั้งสลับกับรัฐประหาร (18 ครั้ง และอาจเพิ่มขึ้นอีก) เป็นช่วงสม่ำเสมอ หัวหน้าทหารบางคนน่าประทับใจ แต่ส่วนใหญ่นั้นน่าเบื่อหน่ายและล้าหลัง คนไทยกล่าวว่า "ไม่เป็นไร" ทุกครั้งที่ทหารออกมา
อย่างไรก็ดี มีมุมมองที่แตกต่างจากทูตคนนี้ด้วยเช่นกัน เป็นมุมมองที่ว่า ที่จริงแล้ว กษัตริย์ หลังจากที่เพิ่งฉลองวันเกิดครบรอบ 81 ปีของเขาในโรงพยาบาล มีความสุขกับชัยชนะสุดพิเศษซึ่งได้ขัดเกลามายาวนาน ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง นอกจากเขาจะเป็นกษัตริย์ที่ครองราชย์นานที่สุดและรวยที่สุดในโลกแล้ว เขาอาจจะเป็นกษัตริย์ที่ไม่เพียงแต่ครองราชย์เท่านั้น หากยังปกครองแผ่นดินด้วย เขามีลักษณะภายนอกเป็นคนอ่อนโยน แต่นักการเมืองเจ้าเล่ห์คนนี้ก้าวขึ้นสู่สถานะปัจจุบันของเขาผ่านข้อตกลงสไตล์แทมมานีฮอลตลอดทั่วทั้งราชอาณาจักร
ภูมิพลขึ้นสู่บัลลังก์ในเวลาที่ไม่เป็นมงคลนัก เมื่อพี่ชายของเขาถูกฆ่าอย่างลึกลับใน พ.ศ. 2489 เผด็จการทหารที่ควบคุมประเทศให้ภูมิพลในวัยเยาว์อยู่ในที่ของเขา "เมื่อฉันเปิดปาก พวกเขา[พวกนายพล]จะพูดว่า 'ใต้ฝ่าพระบาท พระองค์ทรงไม่รู้อะไรเลย' " กษัตริย์ภูมิพลหวนรำลึก "ดังนั้นฉันจึงหุบปาก ฉันรู้หลายๆสิ่ง แต่ฉันหุบปาก" ใน พ.ศ. 2490 เผด็จการทหารพ่ายแพ้แก่เผด็จการทหารคณะใหม่ที่พยายามใช้กษัตริย์เพื่อโปรโมตความนิยมของพวกเขา แต่พระองค์คุมเกมเหนือกว่าพวกนั้น และค่อยๆได้รับความเคารพจากสาธารณะขึ้นเรื่อยๆ
ใน พ.ศ. 2516 ผมถาม ม.ล.พีรพงศ์ เกษมศรี ซึ่งต่อมาได้เป็นเอกอัครราชทูตไทยประจำวอชิงตันและเป็นผู้ช่วยระดับสูงของกษัตริย์ ว่าทำไมกษัตริย์และความแข็งแกร่งที่ปรากฎออกมาของพระองค์จึงไม่ขับไล่คนที่น่าตลกและคดโกงที่กำลังบริหารประเทศอยู่ออกไป เขาตอบว่าประเทศไทยต้องรักษากษัตริย์ไว้เพื่อเวลาที่ไม่มีใครอื่นที่จะรักษาประเทศได้
วันนั้นมาถึงเร็วกว่าที่คาดคิด เมื่อในปลายปีนั้น นักศึกษาที่กลับมาจากยุโรปและนักศึกษาในมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ เติมเต็มไปด้วยความคิดใหม่ ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย กษัตริย์ภูมิพล ในสไตล์ที่ชัดเจนเกิน รอจนกว่าสามเผด็จการและนักศึกษาหลายพันคนจะสมดุลกัน และต่อมาส่งสามทรราชออกนอกประเทศ
ช่วงทศวรรษ 2520 กษัตริย์มีอำนาจเกือบจะเด็ดขาด วอชิงตันในสมัยของจิมมี คาร์เตอร์ กำลังเรียกร้องประชาธิปไตยในประเทศโลกที่สาม ดังนั้นพระราชวังจึงอนุญาตให้ เปรม ติณสูลานนท์ นายพลที่อ่อนโยน ปกครองประเทศในนามของกษัตริย์ แต่ไม่มีใครที่อยู่วงในจะสงสัยเลยว่าใครคือผู้มีอำนาจที่แท้จริง และในขณะเดียวกัน เศรษฐกิจประเทศก็กำลังพุ่งสุดขีด มันเป็นการผสมผสานที่ยอดเยี่ยมเกินกว่าที่ใครจะกล้าหรือขอให้หยุดมันได้
ใน พ.ศ. 2535 นายพลอีกคนทำผิดพลาด และพยายามปราบการประท้วงของนักศึกษาและผู้สนับสนุนประชาธิปไตย หลังจากการนองเลือดดำเนินไปถึงขั้นรุนแรงพอ กษัตริย์ทรงรอในลักษณะเดียวกับเมื่อปี 2516 และเรียกนายกรัฐมนตรีและผู้นำการประท้วงมาเข้าพบซึ่งออกโทรทัศน์ไปทั่ว โลกเห็นคนทั้งสองหมอบกราบอยู่บนพื้นพระราชวังตรงบัลลังก์เพื่อรับสิทธิพิเศษ (ทางประชาธิปไตย -- หรือราชาธิปไตย) ของพระองค์ ประเทศไทยหลังจากนั้นเงียบสงบไปทศวรรษหนึ่ง และรอดผ่านวิกฤตการณ์ทางการเงินในเอเชีย พ.ศ. 2540 อันเป็นความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่มาได้
และแล้วในปี พ.ศ. 2544 ความท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดของภูมิพลก็มาถึง เมื่อทักษิณ ชินวัตร พบวิธีในการเรียกคะแนนเสียงจากชาวบ้านในชนบท ขณะที่ละเลยต่อคะแนนเสียงของพวกที่เรียกตัวเองว่าเป็นนักประชาธิปไตยในกรุงเทพฯ และนำไปสู่ชัยชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลายและขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยความแข็งแกร่งทางการเมืองและเงินมากมายที่มาจากสัมปทานโทรศัพท์เคลื่อนที่ ทักษิณได้ทำผิดพลาดด้วยการไปสงสัยว่า ทำไมชายชราซึ่งย้ายไปอยู่ที่วังชายทะเลในจังหวัดทางใต้จึงได้รับอนุญาตให้มีอำนาจได้ถึงขนาดนั้น เขาไม่ได้ทำการต่อต้านกษัตริย์อย่างเปิดเผย แต่ทำการนับพันที่จะลิดรอนอำนาจของพระองค์ลง
แต่ไม่ใช่กษัตริย์ที่ถูกลิดรอนอำนาจ ในปี 2549 ด้วยความเห็นชอบจากทางวัง กองทัพได้ส่งทักษิณเก็บกระเป๋า แต่รัฐบาลใหม่ก็ขี้เกียจ และที่เหลือก็คือประวัติศาสตร์: สองปีแห่งความไม่สงบ การประท้วงบนท้องถนน เศรษฐกิจทรุดหนัก และท้ายที่สุดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยปิดสนามบิน การประท้วงของพันธมิตรและการขับไล่สมชายจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้โดยปราศจากการสนับสนุนอย่างเงียบๆจากวัง ขณะที่กลุ่มก้อนในกองทัพรอดูการสนับสนุนอื่นๆจากพระราชวังต่อไป
ขณะเดียวกัน อังกฤษก็อาญัติทรัพย์ของทักษิณในอังกฤษและยกเลิกวีซาของเขา ทรัพย์สินอื่นของทักษิณ -- ความนิยมในชนบทของเขา -- มีแต่จะลดลง ขณะที่กษัตริย์ทรงรอดูอยู่ว่าทักษิณจะพยายามทำอะไรต่อไป
แต่ตอนนี้ กษัตริย์จำเป็นต้องมีไม้กายสิทธิ์หรือไม่? เพราะเขาได้ใช้เวทมนตร์ของเขาอย่างช้าๆในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ปล่อยให้ทักษิณกลายเป็นศัตรูที่เลวร้ายที่สุดของเขา บังอาจเอื้อมและทำในสิ่งที่ไม่อาจคิดได้ นั่นคือ บ่อนทำลายพระราชบัลลังก์ ทักษิณได้กลายเป็นบุคคลคล้ายกษัตริย์คนสุดท้ายของอิหร่าน ที่ต้องอพยพหนีไปกับครอบครัวและทรัพย์สินของเขา ไม่มีมิตรประเทศของไทยกล้าให้เขาอยู่ เพราะภูมิพล -- ผู้อาจเป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของราชวงศ์จักรีตามคำทำนาย -- เป็นกษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ประเทศไทยจะสงบลงในไม่ช้า เศรษฐกิจจะกลับมารุ่งเรืองอีกครั้งและนักท่องเที่ยวจะมาเที่ยววัดและชายหาดกันแน่นขนัด และถ้าโชคดี กษัตริย์องค์นี้ก็คงจะอยู่ต่อไปอีกสักพักเพื่อลิ้มรสชาติแห่งชัยชนะของพระองค์
W. Scott Thompson
ที่มา : Thai Report : LA Times: ภูมิพล กษัตริย์ที่น่าทึ่งของไทย
หมายเหตุ
การเน้นข้อความทำโดยความเห็นของผู้จัดเก็บบทความ
วันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2551
Bhumibol, Thailand's remarkable king : ภูมิพล กษัตริย์ที่น่าทึ่งของไทย
ผู้จัดเก็บบทความ เจ้าน้อย ณ สยาม ที่ 6:58 หลังเที่ยง
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
7 ความคิดเห็น:
หากเราไม่มีพระมหากษัตริย์พระองค์นี้ ประเทศชาติของเราคงไม่สามารถพัฒนามาได้จนปัจจุบัน ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ใยกล่าวเช่นนั้นหากไม่มีกษัตรืย์เราจะอยู่อย่างสงบสุขได้หรือ
พระองค์ทรงเสียสละอย่างยิ่งใหญ่
ยังจะมีคนอย่างคุณมาดูหมิ่นอีก
ไอ้............
การดูหมิ่นสถาบันกษัตริย์เป็นเรื่องที่ไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง
คุณหน้าจะแก้ไขการกระทำอันมิชอบซะ
ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ
เป็นมิ่งขวัญของชาวไทยไปตลอด
ไอ้พวกคุณๆ ที่ดูหมิ่นท่านขอให้ไม่มีความสำเห็จในชีวิต
โปรดเลิกการกระทำแบบนี้ซะแล้วจะเป็นผลดีต่อตัวท่านและประเทศชาติ
ขอให้พระองค์ภูมิพลทรงพระเจริญ
ข้พเจ้าจะปกป้องสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ จนชีพมลาย
ขอให้พระองค์ภูมิพลทรงพระเจริญ
หายจากพระประชวรโดยเร็ววัน
ข้าพเจ้าจะปกป้อง ทั้งสามสถาบัน
มีข้อความไม่เหมาะสม
แสดงความคิดเห็น