คำถามถึง Modern Monarchy :
คุณรู้ได้อย่างไรว่า สถาบันฯ เป็น "ศูนย์รวม
ผมเห็นที่คุณตั้งไว้ 2 กระทู้
ผมรักในหลวงและสถาบันครับ, ผมอ่านที่พวกคุณเขียนในเวบนี้หมดแล้ว
และ
สานเสวนาระหว่างคนที่เทิดทูนสถาบันVSไม่นิยมสถาบันกษัตริย์, ลองคุยกันดีๆซักกระทู้ดีไหมครับ ไม่ต้องชี้หน้าประนามอีกฝ่าย
ที่ตัวกระทู้แรกเอง
QUOTE
แต่ผมก็ยังเห็นว่าสถาบันก็มีความสำคัญและมีหน้าที่สำคัญนั่นก็คือเป็นศูนย์รวมจิตใจ ชนในชาติที่หลากหลายแตกต่างกันครับ
#65
QUOTE
ทุกท่านก็เห็นอยู่ว่าสถาบันกษัตริย์ได้ร้อยรัดให้ประเทศนี้เป็นชาติ และเป็นเอกภาพกันนะครับ บนความแตกต่างหลากหลายทางด้านเชื้อชาติ ศาสนา และเขตแดน
และที่ #103 ของกระทู้เดียวกัน
QUOTE
-กษัตริย์ ก็อย่างที่ผมบอกไป ยังร้อยรัดให้ความเป็นรัฐชาติยังดำรงคงอยู่ หากท่านๆเห็นว่าไม่จำเป็น คือไม่มีกษัตริย์ ก็ยังทำให้รัฐชาติเป็นแบบที่เป็นอยู่นี้ได้ ตามแผนที่ในปัจจุบันนี้ได้ก็ว่ากันไป..แต่ผมว่ามีความเสี่ยงที่จะแตกกระจายเป็นบ้านเล็กเมืองน้อย ตอนนี้ก็มีเค้าลางอยู่ คนใต้ก็ไปทาง อีสานกับเหนือไปทาง คนกรุงก็ไปอีกข้าง...
คำถามง่ายๆ แต่ fundamental ของผมคือ คุณรู้ได้อย่างไรว่า สถาบัน 'เป็นศูนย์รวมจิตใจชนในชาติที่หลากหลายแตกต่างกัน'
ผมขอเสนอว่า
คุณตอบไม่ได้ พิสูจน์ไม่ได้ โดยแท้จริง หรอกครับ
อย่างมากคุณก็ได้แต่อ้าง "ปรากฏการณ์" ที่เห็นๆกันอยู่ในขณะนี้ (มีคนออกมาแสดงความรักในหลวง ฯลฯ)แต่เด็กมัธยมที่รู้จักคิดหน่อยก็ทราบว่า ปรากฏการณ์เช่นนี้ วางอยู่บนพื้นฐานที่ว่า
ไม่มีใครสามารถพูดอะไรที่ negative
ต่อ สถาบันกษัตริย์ได้
คนทีถูกตัดสิน (ซึ่งหลายครั้งเป็นการตัดสินที่ไม่เป็นไปตามบรรทัดฐานกฎหมายสากล) ว่า "หมิ่น" ก็ติดคุกมาไม่รู้กี่คนแล้ว
ยิ่งกว่านั้น ใครๆก็ทราบเรื่อง การโฆษณาประชาสัมพันธ์ตลอด 24 ชม. ที่ไม่อนุญาติให้ใครโต้แย้งนี้ได้(ดังนั้น ใครที่มีเหตุผลแท้จริง ก็ยอ่มทราบว่า ภายใต้ภาวะการเช่นนี้ "ปรากฏการณ์" ประเภท "เป็นศูนย์กลาง..." เป็นปรากฏการณ์บนพื้นฐานที่มีลักาณะ บังคับอย่างสิ้นเชิง (totalitarian) ทั้งในแง่ บังคับไม่ให้ negative จะติดคุก ไปถึง บังคับ ให้ฟัง ให้ได้ยิน แต่เรื่องดีๆ ฯลฯ)
ดังนั้น แค่การอ้าง "ปรากฏการณ์" แบบนี้ ไม่มีความหมายหรอกครับ
ในเก่าหลีเหนือ ก็อ้างได้ว่า "ท่านผู้นำเป็นศูนย์กลาง..."
เพราะ "ไปถามใครๆ ก็ล้วนแต่พูดอยางนี้" มีแต่การแสดงออกว่า ท่านผู้นำ เป็น "ศูนย์กลาง..."
มีแต่คนที่หัวอ่อนสุดขีดเท่านั้น จึงจะเชื่อว่า นี่เป็นการพิสูจน์ว่า ท่านผู้นำเกาหลีเหนือเป็นศูนย์กลางของชาติเกาหลีเหนือ ฯลฯ
พวกนิยมสถาบันฯ ในประเทศไทย ไม่ว่าจะอ้างความมีเหตุผลอย่างไร ถึงที่สุด วางอยู่บนฐานของความหัวอ่อนเช่นนี้
นอกจากหัวอ่อนแล้ว ทีแย่คือ คนเหล่านี้ ไม่มีความรู้ประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของประเทศตัวเองเลย
"ปรากฏการณ์" ที่ใช้ในการอ้างสนับสนุนเรื่อง "ศูนย์รวม..." เป็นปรากฏการณ์ ที่ใหม่ ที่เกิดขึ้นจริงๆสมัยสฤษดิ์
สมัยทศวรรษ 2470s หรือ 2480s ก็ไม่มีปรากฏการณ์เช่นนี้
ที่เกิดขึ้นสมัยสฤษดิ์ ก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
เพราะการใช้กฎหมายหมิ่น แบบเหวี่ยงแห แบบครอบจักรวาล เกิดขึ้นในสมัยนี้และที่สำคัญคือ การละเมิดหลักการทีว่า power ต้องมี accountbility ด้วย
คือ ไม่สามารถให้อำนาจแก่ กษัตริย์ได้ รวมทั้งอำนาจในการ "เยี่ยมราษฎร" หรือ มี "พระราชกรณียกิจ" ต่างๆ "เพื่อราษฎร" โดยไม่มี accountability เลย ก็ล้วนเกิดขึ้นจากสมัยนี้ทั้งสิ้น
พูดถึงกรณีนี้ ที่คุณเขียนมาว่า
QUOTE
ส่วนที่วิจารณ์ว่าสถาบันกินภาษีแต่ไม่ทำงาน ท่านทำงานครับตามกรอบรัฐธรรมนูญของกษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตย คือเป็นประมุขของชนในชาติ จะให้ท่านทำมากกว่านั้นไม่ได้ เพราะไม่ใช่กาลสมัยของราชาธิปไตยแล้ว หากท่านจะให้กษัตริย์ทำงานแบบที่ว่าก็ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญย้อนยุคไปเป็นราชาธิปไตยแบบที่นายสนธิลิ้มเรียกร้อง(ซึ่งผมก็ไม่เห็นด้วยเลย)
แสดงว่าคุณไม่เข้าใจ "กษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตย" เลยครับ
(ก) ไม่มีระบอบประชาธิปไตย จริงๆที่ไหน อนุญาติให้ กษัตริย์ ที่ไม่ต้องมี accountability "ทำงาน" เลยครับ ไม่ว่าอะไร อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจบุน ("พระราชกรณีกิจ" ต่างๆ "โครงการต่างๆ" ฯลฯ)
แค่ "พระราชดำรัส 4 ธันวา" ที่คุณยก ก็แสดงว่า คุณไม่มีความเข้าใจแล้ว (ผมเคยเขียนกระทุ้เรื่องนี้ไว้แล้ว กระทันหา หา link ไม่เจอ เรื่อง ประมุขที่ไม่ได้เลือกตั้ง ทำไมจึงไม่อนุญาติให้กล่าวต่อสาธารณะ)
ไม่มี ระบอบประชาธิปไตย จริงๆที่ไหน เขาอนุญาติให้ ประมุข กล่าวในลักษณะนี้ได้ (คือ กล่าว โดยไม่ต้องมี accountability ทั้งสิ้น )ไม่เพียง พระราชดำรัส 4 ธันวา ยกตัวอยางใกล้ๆนี้ ที ทรงมีพระราชดำรัส เรื่อง รบ.ใช้จ่ายมากจน "ล่มจม" ทรงกล่าวเช่นนั้น โดยไม่มี accountability เลย ถ้าเป็นระบอบประชาธิปไตยจริงๆ ที่ไหนจะทำได้
(ข) สืบเนื่องจาก (ก) และเกี่ยวข้องกับเรืองทีว่าพิสูจน์ไม่ได้ข้างบน เพราะบังคับกันอยู่ ไม่มีระบอบประชาธิปไตยจริงๆที่ไหน อนุญาตให้มีการโฆษณา เรื่องสถาบัน ในลักษณะนี้หรอกครับ 24 ชม. โดยปิดปาก ไม่ให้ใครโต้แย้ง
QUOTE
ผมอยากให้พยายามมองในด้านของพระองค์ท่านดูว่า พระองค์ท่านเป็นกษัตริย์ใต้รัฐธรรมนูญนะครับ เป็นสถาบันกษัตรยิ์ในระบอบประชาธิปไตย ท่านทำได้ตามกรอบกฎหมาย ที่เหลือนั้นก็เรื่องของอาณาบารมีส่วนพระองค์ที่ประชาชนในชาติเชื่อว่าท่านมี หรือมอบให้ท่าน
แต่หากท่านจะลงมาแทรกแซงกิจการงานเมือง ป่านนี้บ้านเมืองเราก็คงเป็นเขมร(แบบกษัตริย์สีหนุเคยทำ) หรือเป็นแบบเนปาล(ที่ไปรวบอำนาจรัฐบาลเลือกตั้ง)ไปแล้วกระมัง
ทีเขียนมานี่ แสดงว่า หัวอ่อน เชื่อโฆษณาชวนเชื่อเหลือเกิน และไม่มีความรู้ประวัตศาสตร์ด้วย
พระมหากษัตริย์ปัจจุบัน แทรกแซงการเมืองมาหลายครั้งแล้วครับ (แค่การมีพระราชดำรัส โดยไม่ต้องมี accountability ก็ถือเป็นการแทรกแซงการเมือง ที่ในระบอบประชาธิปไตยจริงๆ ไม่มีใครเขามีแล้วครับ) ในลักษณะที่ - เอาเป็นว่า ถ้าไม่มีกฎหมาย หมิ่นฯ ผมจะอภิปรายให้มากกว่านี้ แต่เอาแค่ตัวอย่างเดียว ที่เพิ่งแสดงให้เห็นเร็วๆ
นี้เมื่อสฤษดิ์ยึดอำนาจ จอมพล ป. ในปี 2500 (ทุกคนทราบดีว่า การยึดอำนาจ ผิดกฎหมายอย่างไร มีบทลงโทษอย่างไร) ในหลวงทรงมี"พระบรมราชโองการ" ตั้งสฤษดิ์ เป็นผู้รักษาพระนคร และทรงเรียกร้องให้พสกนิกร เชื่อฟังคำสั่งสฤษดิ์ พระบรมราชโองการนี้ ไม่มี "ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ" ซึ่งตาม รธน. 2495 ที่ยังมีผลบังคับใช้ในขณะนั้น ระบุไว้ชัดเจนว่า พระบรมราชโองการทุกฉบับ ต้องมี ....
ถ้าไม่มีกฎหมาย และไม่มีการดำเนินการเล่นงาน พวก "หมิ่น" อย่างที่กำลังทำอยู่นี้ ผมยินดีจะอภิปรายมากกว่านี้แต่ก่อนอื่น ขอเรียกร้องว่า ก่อนทีจะมาแสดงตัวเป็นผู้จงรักภักดี "ที่มีเหตุมีผล" ไปศึกษาประวัติศาสตร์จริงๆเสียก่อน อย่าเอาแต่อ่านฟัง การโฆษณาประชาสัมพันธ์ หรือ เอาแต่พูด cliche การโฆษณษประชาสัมพันธ์เช่นนี้
ความจงรักภักดี/ความเป็นศูนย์รวม
แท้จริง ต้องวางอยู่บนพื้นฐานของเสรีภาพ
คุณตั้งชื่อคุณ โดยมีคำว่า Modern และแสดงเป็นผู้มีเหตุมีผลว่า อยากให้ monarchy มีลักษณะ modernแต่ความเข้าใจของคุณ ความเชื่อของคุณ ไม่มีอะไรที่มีลักษณะ modern เลยแม้แต่น้อยmodernity ที่แท้จริง (สำหรับผู้สนใจเชิงปรัชญา การอภิปรายต่อไปนี้ วางอยู่บนฐานแนวคิดที่มาจาก Kant และ Hegel เรื่อง autonomy)จะต้องถือว่า
สิ่งที่เรียกว่า "ความจงรักภักดี" (royalty) หรือปรากฏการณ์ที่จะเข้าลักษณะ "ศูนย์รวมจิตใจ"จะต้องวางอยู่บนพื้นฐานของ เสรีภาพ (autonomy คือความสามารถในการตัดสินใจด้วยตัวเอง หรือ self-determination) ไม่ใช่การบังคับ
เพื่อให้เข้าใจได้ง่าย ขอให้สมมุติว่าผมในฐานะหัวหน้าครอบครัวทำการโฆษณาความดีความชอบของผมให้ลูกและสมาชิกคนอื่นในครอบครัวฟัง ตลอด 24-7โดยบังคับ ห้าม ไม่ให้มีการ ซักไซ้ ตรวจสอบ ตั้งคำถาม และวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่ผมเล่า โดยสิ้นเชิงห้ามไม่ให้มี response ต่อผม ในลักษณะ negative ใดๆทั้งสิ้นมิฉะนั้น จะถูกลงโทษ ด้วยการเอาไปขังในคุกห้องใต้ดินที่ผมทำไว้ เป็นเวลา 10 ปีเคยมีลูกบางคน ทำ ผมก็จับไปขังจริงๆ ให้ทุกคนรู้มาตราการบังคับ ทั้งในแง่ตรง (จับขังคนที่ไม่ทำตาม หรือ โต้แย้ง) และ "อ้อม" คือ สั่งสอนแต่เรื่องดีๆเกี่ยวกับตัวผมตลอด 24-7ทำให้เกิดปรากฏการณ์อย่างหนึ่ง ต่อคนภายนอก และต่อสมาชิกในครอบครัวผมเอง คือผมกลายเป็น "ทุกสิ่งทุกอย่าง" กลายเป็น "ศูนย์กลางจิตใจ" ของสมาชิกทุกคนในครอบครัวไม่เคยมีใครได้ยิน การพูดถึงผมในลักษณะ ลบ เลย จากปากสมาชิกในครอบครัว (เพราะคนที่เคยพูด ถูกจับขังใต้ดินไปแล้ว)
ขอถามว่า อย่างนี้ ถือว่า ความเป็น "ศูนย์รวมจิตใจ" ของผม เป็น "ของแท้" จริงๆ ตามบรรทัดฐาน modernity หรือ?
คำตอบคือ เปล่าเลย
ตามหลัก modernity ความภักดี และ ความยอมรับ ต้องตั้งอยู่บนฐานที่ คนที่ให้การภักดี และการยอมรับนั้น มีเสรีภาพ ในการตัดสินใจเอง ไม่ใช่อยู่ภายใต้การบังคับ ทั้งทางตรง และ "ทางอ้อม" (การโฆษณา 24-7 ที่โต้แย้งไม่ได้)
สรุปคือ
"ความจงรักภักดี" และ ความเป็น "ศูนย์รวมจิตใจ" ที่แท้จริง ตามหลักสมัยใหม่ ต้องวางอยู่พื้นฐาน เสรีภาพ ในการตัดสินใจด้วยตัวเอง อย่างแท้จริง ของสมาชิกในสังคม
(เสรีภาพในการตัดสินใจด้วยตัวเองนี้ ไม่อาจนับเป็นของแท้จริงได้ ถ้าไม่รวมถึง เสรีภาพ ในการโต้แย้ง ตรวจสอบ วิพากษ์ และ ปฏิเสธ ได้ซึ่งย่อมรวมถึงเสรีภาพ ที่จะไม่อยู่ภายใต้การบังคับให้เสพย์แต่การสั่งสอนแบบเดียว เว่อร์ชั่นเดียว)
หากสังคมใด มีเสรีภาพที่แท้จริงเช่นนี้แล้ว ยังเกิดภาวะ "ความจงใจภักดี" หรือ "ศูนย์รวมจิตใจ" จึงกล่าวได้ว่า สิ่งนี้เป็น ของแท้ เกิดขึ้นโดยเสรี
สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล
ที่มาของการถลกกันเรื่องนี้ : บอร์ด"ฟ้าเดียวกัน" :
(1) คำถามถึง Modern Monarchy : คุณรู้ได้อย่างไรว่า สถาบันฯ เป็น "ศูนย์รวม
(2) ความจงรักภักดี/ความเป็นศูนย์รวม แท้จริง ต้องวางอยู่บนพื้นฐานของเสรีภาพ, คำถามถึง Modern Monarchy (2) คุณ ก๊วยเจ๋ง ก็ควรอ่าน
หมายเหตุ
หากยังมีผู้ใดสงสัยในเรื่องนี้อยู่ ท่านสามารถเข้าไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมได้ ในกระทู้ข้างต้น เพราะว่ายังมีการถลกกันอีกหลายความเห็นกันอยู่ทั้งสองกระทู้
วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
ความจงรักภักดี/ความเป็นศูนย์รวม แท้จริง ต้องวางอยู่บนพื้นฐานของเสรีภาพ
ผู้จัดเก็บบทความ เจ้าน้อย ณ สยาม ที่ 9:52 หลังเที่ยง
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
2 ความคิดเห็น:
ขอบคุณมากค่ะ สำหรับบทความ
ขอบคุณมากค่ะ สำหรับบทความ
แสดงความคิดเห็น