วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

สังคมนิยมเพ้อเจ้อ (Utopia)


อาชีพชาวนาไทย ไม่มีศักดิ์ศรี มีแต่ศักดิ์ขาว-ดำ (สีไว้ทุกข์)

ตกอยู่ใน วงจรอุบาทว์ (โง่->จน->เจ็บ)

โง่ เพราะ จน

จน เพราะ โง่

เจ็บกาย ไปหาหมอยา ก็ไม่มีเงิน เพราะ โง่+จน

เจ็บใจ โดนโกง ไปหาหมอความ ก็เงินไม่มี เพราะ จน+โง่

ทำนาปรังมีแต่ซังกับหนี้ ทำนาปีมีแต่หนี้ กับซัง

จึงไม่มีใครอยากทำนา อาชีพชาวนาจึงถึงกาลวิสัญญี

เมื่อไม่มีชาวนา ก็ไม่มีข้าว ไม่มีข้าวก็ไม่มีกิน

ไม่มีข้าวกิน เงินก็ไม่มีความหมาย

เพราะเงิน กินต่างข้าวไม่ได้

ครั้นจะไปซื้อข้าวต่างชาติเขากิน ก็กินไม่อิ่ม

เพราะทั่วโลกก็เกิด วิกฤตการ ขาดแคลนข้าว
ข้าวจึงเป็นสินค้าควบคุมพิเศษ

รัฐบาลไทย จึงต้องตรากฎหมาย ให้ ชาวนาไทย เป็นข้าราชการ

สังกัดกระทรวงชาวนาไทย

มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวง มีปลัดกระทรวง

มีผู้อำนวยการโรงนาไทย

มี 4 M's (Man ,Money ,Material และ Management)

ผู้ที่จะเป็นข้าราชการในสังกัดกระทรวงชาวนาไทย
ต้องสอบแข่งขันเพื่อรับการบรรจุแต่งตั้ง

สอบทฤษฎี+ปฏิบัติ (ไถนา หว่านข้าว เกี่ยวข้าว ฯลฯ) สอบสัมภาษณ์ ผ่านการประเมินทางจิตวิทยา ผ่านการตรวจร่างกาย

ผู้ที่จะประกอบวิชาชีพชาวนาไทยต้องมี ใบประกอบวิชาชีพ

ข้าราชการกระทรวงชาวนาไทย มีขั้น
มีเงินเดือน +โบนัส+เดินทางดูงานต่างประเทศ

มีสิทธิได้รับเครื่องราชฯ

มีสิทธิอันพึงมีพึงได้ ที่ข้าราชการ พึงควรได้รับ

อาชีพชาวนาจึงมีศักดิ์มีศรี (เปลี่ยนจาก จอขาวดำมาเป็นจอสี)

อาชีพชาวนาไทย จึงเป็นอาชีพที่มีเกียรติ เทียบเท่ากับ อาชีพหมอ

เพราะข้าราชการกระทรวงชาวนาไทยมีหน้าที่รักษาชีวิตคนในชาติ
มิให้ตายอด ตายอยาก

ถ้ามีปัญหาสมองไหลเกิดขึ้นในกระทรวงชาวนาไทยซึ่งปัญหาดังกล่าว เคยเกิดขึ้นมาแล้วกับกระทรวงอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่นกระทรวงสามานย์ เอ้ย กระทรวงสาธารฯ ซึ่งประสบภาวะปัญหา สมองไหล..

กระทรวงสาธารฯ แก้ปัญหานี้โดย จัดตั้งโครงการ
ผลิตแพทย์เพิ่ม เพื่อชาวชนบท

กระทรวงชาวนาไทยก็สามารถเลียนแบบนโยบาย จากกระทรวงสาธารฯ โดยการผลิตชาวนาเพิ่ม เพื่อชาวชนบท

โดยการให้ทุนการศึกษาเล่าเรียน ..แต่มีข้อแม้ที่ว่า..หลังจากสำเร็จการศึกษาแล้ว นักศึกษาจะต้องทำงานใช้ทุนที่กระทรวงชาวนาไทย 20-30 ปี

แต่ถ้านักศึกษาจบออกมาแล้วยังไม่อยากใช้ทุน..จะขอใช้เงินแทน
การใช้ทุน.. ปัญหานี้ก็แก้ไขได้ไม่ยาก

ก็แค่..ก่อนสมัคร..ให้นักศึกษากรีดเลือดสาบาน ...ว่า..เมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วจะออกมาทำงานรับใช้ชาติบ้านเมือง ณ กระทรวงชาวนาไทย โดยมิเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน

เพียงเท่านี้ก็จะสามารถแก้ปัญหา สมองไหล ได้ในระดับหนึ่ง...

ที่กล่าวมาข้างต้นเป็น ยูโทเปีย (Utopia) ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นจริงในอีกประมาณ 2,000-3,000 ปีข้างหน้า


กวิน

ที่มา : gotoknow.org : kelvin บล็อก : สังคมนิยมเพ้อเจ้อ (Utopia)

ไม่มีความคิดเห็น: