วันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2551

"เหรียญมหาชนกนี้ ท่านได้ แต่ใดมา?" / พันธมิตร กำลังสร้าง "ความเบื่อ" เพื่อ "พระเอกขี่ม้าขาว"?, และ .....



ผมขออนุญาตพูดถึง 3 เรื่อง ดังนี้


1.

"เหรียญมหาชนกนี้ ท่านได้ แต่ใดมา?"

ในการปราศรัยเมื่อคืนวันที่ 26 กันยานี้ สนธิ ลิ้มทองกุล ได้ทำ "เซอร์ไพรส์" (คำของผู้จัดการเอง) ด้วยการทำตัวเป็น "ดีเจ" เปิดเพลง "ไทย ฝรั่ง และ จีน"ดูข่าวที่นี่ http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews...D=9510000114517ดาวน์โหลดคลิปวีดีโอที่นี่

ดาวน์โหลดคลิปวีดีโอที่นี่
mms://tv.manager.co.th/videoclip/11News1/footage/Sondhi_260908.wmv
(ส่วนที่ผมพูดถึงข้างล่าง อยู่นาทีที่ 12:20 - 13:39)


ระหว่างที่กำลังเริ่มต้นพูดถึงสุรพล สมบัติเจริญ (ซึ่งครบรอบวันเกิด 78 ปี วันที่ 25 กันยายนนี้) สนธิก็ "พูดแทรก" (คำของผู้จัดการเอง) ขึ้นว่า [ต่อไปนี้เป็นการถอดเทปของผมเอง ส่วนที่ถอดเทปในรายงานข่าวของผู้จัดการ ไม่ตรงแบบคำต่อคำเสียทีเดียว]

พี่น้อง มีคนถามว่าผมห้อยอะไรอยู่หรือ ผมห้อยเหรียญ พระมหาชนก [สนธิเอามือจับเหรียญโลหะที่ห้อยคออยู่ ยกขึ้นจากอก กล้องซูมเข้าไปใกล้] อย่าถามผมเลยว่า ผมได้มายังไง เอาเป็นว่า ผมได้มาก้อแล้วกัน [ผู้ร่วมชุมนุมปรบมือยาว สนธิยิ้มเป็นนัยๆ] ผมไม่กล้าแสดงออกอะไรมากกว่านี้ เดี๋ยวจะเป็นการ ละเมิด เอาเป็นว่านัยยะของเหรียญอันนี้ ข้างหลังมีรูปพระมหาชนกกำลังว่ายน้ำอยู่ และมีเทวดากำลังเฝ้าดูอยู่ [ผู้ชุมนุมปรบมือ] และมีคำพูดที่บอกมา ว่า พระมหาชนกนั้น ว่ายน้ำอยู่ในทะเลมานานแล้ว ขอให้อดทน เพราะ ใกล้ จะ ถึง ฝั่ง แล้ว ครับ [ผู้ชุมนุมปรบมือยาว]"

(น่าสังเกตว่า รายงานข่าวของผู้จัดการ ใช้คำที่ทำให้ดู "ชัดเจน" ขึ้นอีก โดยเฉพาะในประโยคสุดท้าย ดังนี้ : "มีคนถามว่าผมห้อยพระอะไร ผมบอกว่านี่เป็นเหรียญพระมหาชนก แล้วถามว่าได้มาอย่างไร แต่อย่าให้ผมบอกเลย แต่เอาเป็นว่ามีข้อความฝากมาว่า พวกเราว่ายน้ำมานานแล้วเหมือนพระมหาชนก ขอให้อดทนอีกนิด เพราะใกล้จะถึงฝั่งแล้ว)

เมื่อพิจารณาถึงอดีตของ "ท่าที" (gesture) ในลักษณะเดียวกันนี้ของสนธิ (ดูบทความ "พระบารมีปกเกล้า : พระสุรเสียงราชินีบนเวทีพันธมิตร" ของผมที่นี่ ) ท่าทีของสนธิเมื่อคืนจึงเป็นเรื่องที่ควรจับตามองอยู่บ้าง

แน่นอน อาจเป็นไปได้ว่า เที่ยวนี้ สนธิ "หมดมุก" ใหม่ ที่จะกระตุ้นปลุกเร้าผู้สนับสนุน (การปราศรัยเมื่อคืน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเปิดเพลง ก็อาจจะเป็นการแสดงออกของความ "หมดมุก" ได้) จึงรื้อฟื้นท่าทีเก่าขึ้นมาชนิด "เล่นกล" คือไม่ได้มีอะไรในกอไผ่จริง โดยเฉพาะถ้าเราดูสถานการณ์ขณะนี้ ซึ่งค่อนข้างเป็นไปได้มาก ว่าแม้แต่ในหมู่ผู้สนับสนุนพันธมิตร ก็รู้สึก "ล้า" กันไม่น้อย ถึงขั้นมีการบ่นๆกันในเรื่อง "ทำไมคนที่เราทำเพื่อเค้า ยังเฉยอยู่" (นี่คือชื่อกระทู้ที่เว็บบอร์ดผู้จัดการ ไม่กี่วันก่อน ซึ่งตอนนี้ถูกลบไปแล้ว http://www2.manager.co.th/mwebboard/listComment.aspx?QNumber=272820&Mbrowse=9 ขอให้ดูรายละเอียดที่นี่แทน http://www.sameskybooks.org/board/index.php?showtopic=11334 การใช้ท่าทีเช่นเมื่อคืนนี้ อาจจะเป็นเพียงการพยายามทำให้คนสนับสนุนอดทน ด้วยการให้ "ความหวัง" (ลมๆแล้งๆ?) ประเภท "ขอให้รออีกหน่อย" เพราะ "เค้ามาแน่" (เหมือนครั้งที่แล้ว) ก็เป็นได้

อย่างไรก็ตาม ในความเห็นของผม เรื่องนี้สมควรจับตาดูอยู่


2.

"ยุทธศาสตร์" หรือ "หน้าที่" ของ พันธมิตร

สิ่งที่ผมอยากจะเสนอให้คิดและอภิปรายต่อ (ซึ่งต่อเนื่องจากเรื่องเมื่อครู่) คือ what now? what next? (จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้)

คงปฏิเสธไม่ได้ว่า หลังจากสมัครออกแล้ว พันธมิตรได้ "หมดแรงดัน" ไปเยอะ ในแง่ของความรู้สึกสนับสนุน ของกลุ่มคนที่เรียกกันว่า "คนชั้นกลาง" (ผมไม่เห็นด้วยกับการ "วิเคราะห์" หรือเรียกแบบง่ายๆ แบบเหมารวมแบบนี้ แต่ตัวการ"วิเคราะห์" หรือการนิยมเรียกแบบนี้ นับว่าน่าสนใจในตัวเอง) คือบรรดา opinion makers ทั้งหลาย สื่อมวลชน, นักวิชาการ, คนที่ส่งข่าวสารกันทางเน็ต ฯลฯ

เริ่มเกิดความรู้สึกในหมู่คนเหล่านี้ว่า ตอนนี้ พันธมิตร ไม่มีข้อเรียกร้องอะไรที่จริงจังแล้ว เพียงแต่เปลี่ยนประเด็นไปเรื่อยๆ แม้แต่เรื่อง "การเมืองใหม่" ซึ่งเสนอตั้งแต่สมัครยังอยู่ ตอนนี้ก็ "หมดแรงดัน" ไปด้วยไม่น้อย และชาวบ้านชาวเมืองเบื่อกับสถานการณ์ และจึงเบื่อกับการชุมนุมของพันธมิตร เต็มทีแล้ว ฯลฯ

ในบรรดาคนที่คัดค้านพันธมิตร ก็คงมีไม่น้อยที่รู้สึกว่า พันธมิตร กำลัง "แห้งตายไปเอง" ทีละน้อยๆ

แต่ผมกลับรู้สึกว่า "ความรู้สึกเบื่อ" นี้ ไม่ใช่แปลว่าเป็นเรื่องน่ายินดีเสมอไป

เพราะ ตราบเท่าที่รัฐบาลไม่สามารถยุติการชุมนุมในทำเนียบ ของพันธมิตรได้ แม้การชุมนุมนั้นจะทำให้ผู้คนรู้สึก "เบื่อ" หรือ "ไม่แคร์" เพิ่มมากขึ้นๆอย่างไร

ตราบเท่าที่พันธมิตร ยังออกมาเสนอให้เรื่อง "การเมืองใหม่" และบรรดานักวิชาการไม่มีกระดูกสันหลังทั้งหลาย ก็พากันออกมาขานรับ (ล่าสุดคือกรณีประเวศ และ "24 อธิการบดี")

ในที่สุด ก้อมีความเป็นไปได้ที่ว่า

"วันดีคืนดี" จะมี "อัศวินม้าขาว" จะออกมาประกาศว่า "ไม่สามารถปล่อยให้เป็นไปเช่นนี้ต่อไปได้..." จำเป็นต้อง "ใช้มาตรการชั่วคราว" เพื่อแก้ปัญหา (นั่นคือ รัฐประหาร ล้มรัฐธรรมนูญ มี "นายกฯพระราชทาน" อีก)

ช่วง 19 กันยา คปค. อ้างเรื่อง "จะเกิดการปะทะ" ระหว่างผู้สนับสนุนทักษิณ กับ พันธมิตร มาทำรัฐประหาร

แน่นอน สถานการณ์ "การปะทะ" / ความรุนแรง / เลือดตกยางออก หรือข้ออ้างว่าจะเกิดสถานการณ์เช่นนั้น เป็นเงื่อนไขสำหรับรัฐประหารที่รู้จักคุ้นเคยกันดีแล้ว

ในช่วงหลังๆนี้ ผมเริ่มรู้สึกว่า "ความเบื่อ" หรือความ "ไม่แคร์" ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ ก็อาจจะนำมาเป็นข้ออ้างได้เช่นกัน

สรุปแล้ว strategy (ยุทธศาสตร์) หรือ function (หน้าที่) ของพันธมิตร ตอนนี้ ไม่จำเป็นต้อง "เอาชนะ" หรือ "โค่นล้ม" รัฐบาล เพียงแค่ "อดทนอีกนิด" ให้เกิดความเบื่อหน่ายเช่นนี้ มากขึ้นๆๆ เพียงพอที่เมื่อ "อัศวินม้าขาว" ปรากฏตัวอีกครั้ง "คนชั้นกลาง" ก็ "พร้อม" ที่จะ "รับ" เพื่อให้ "ทุกสิ่งทุกอย่างจบเสียที"


3.

.......................

..........................

ความจริง โพสต์นี้ เดิมผมเขียนถึงอีกเรื่องหนึ่ง แต่สุดท้ายเปลี่ยนใจ เขียนแล้วแต่ตัดออก ไม่โพสต์ เพราะไม่ต้องการให้เกิดกรณีทำนอง ดา ตอร์ปิโด


สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล

(Sep 27 2008)


ที่มา : เวบบอร์ด "ฟ้าเดียวกัน" : "เหรียญมหาชนกนี้ ท่านได้ แต่ใดมา?" / พันธมิตร กำลังสร้าง "ความเบื่อ" เพื่อ "พระเอกขี่ม้าขาว"?, และ .....

ไม่มีความคิดเห็น: