วันศุกร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2552

ทำไมต้องจงรักภักดี?


ในระบบประชาธิปไตยการมีประมุขไม่ว่าจะเป็นกษัตรย์หรือประธานาธิบดี ไม่ได้แปลว่าพลเมืองจะต้องจงรักภักดีต่อประมุขแต่อย่างใด ตรงกันข้ามประมุขจะต้องจงรักภักดีต่อประชาชนผู้เป็นพลเมือง เพราะในระบบประชาธิปไตยประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดินและมีอำนาจอธิปไตยสูงสุด ในกรณีที่ประเทศมีระบบประธานาธิบดีประมุขจะต้องได้รับการเลือกมาจากประชาชน ประชาชนจึงเป็นเจ้านายแท้ของประธานาธิบดี ในกรณีที่คนส่วนใหญ่อยากมีประมุขเป็นกษัตรย์ กษัตริย์จะต้องเข้าใจว่าเขาต้องรับใช้ประชาชนและเขาจะต้องสะท้อนความคิดของประชาชนส่วนใหญ่และของประชาชนที่เป็นส่วนน้อยอีกด้วย จึงจะเป็น “จุดรวมศูนย์ของชาติ” ได้ ในกรณีกษัตริย์ยุโรป ถ้าประชาชนเลือกพรรคสังคมนิยมมาเป็นรัฐบาล กษัตริย์จะต้องสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลนั้น

ถ้ากษัตริย์ผู้เป็นประมุขเพียงแต่เข้าข้างคนส่วนน้อยที่มีอำนาจนอกกรอบรัฐธรรมนูญประชาธิปไตย ต้องถือว่ากษัตริย์ละเมิดอธิปไตยแท้ของพลเมือง และไม่เคารพประชาธิปไตย

รัฐธรรมนูญต่างๆของประเทศไทยหลัง 2475 กำหนดไว้ว่ากษัตริย์อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ไม่ใช่กษัตริย์สมบูรณาญาสิทธิราชย์ ดังนั้นกษัตริย์ต้องถือว่าเป็นผู้รับใช้ประชาชน ถ้าไม่เช่นนั้นก็ต้องถือว่าเรามีระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ แต่ทำไมเล่า…ชนชั้นปกครองไทยถึงชอบสร้างภาพว่ากษัตริย์มีอำนาจสูงสุดและบังคับให้เราต้องจงรักภักดีต่อเขา?

การสร้างภาพว่าเราต้องจงรักภักดีต่อกษัตริย์ โดยไม่มีการอธิบายเหตุผลว่าทำไมในระบบประชาธิปไตยที่ถือว่าพลเมืองมีอำนาจสูงสุด เราจะต้องไปจงรักภักดีต่อคนๆหนึ่งที่บังเอิญเกิดมาในตระกูลหนึ่ง เป็นการพยายามล้างสมองประชาชนอย่างไร้ปัญญา และด้วยเหตุที่มีการสร้างกระแสความเกรงกลัว คนไทยจำนวนมากจึงไม่กล้าตั้งคำถามอย่างเปิดเผยกับข้อเสนอว่า”เราต้องจงรักภักดี” ไม่กล้าตั้งคำถามกับข้อเสนอว่าสถาบันกษัตริย์มี “ความศักดิ์สิทธิ์” และไม่กล้าตั้งคำถามกับการยัดเยียดความคิดว่าสถาบันกษัตริย์อยู่เคียงข้างสังคมไทยมาตั้งแต่โลกเกิดและได้ทำให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข

ทั้งวิภาษวิธีมาร์คซิสต์และศาสนาพุทธ เสนอว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้นเวลาชนชั้นปกครองพูดว่าสถาบันกษัตริย์อยู่เคียงข้างสังคมไทยมาอย่างยาวนาน มันเป็นคำพูดที่ไร้วิทยาศาสตร์ เป็นคำพูดเท็จเพื่อให้พลเมืองเป็นไพร่…แต่เป็นไพร่ของใคร? คำตอบคือเป็นไพร่ของทหาร อภิสิทธิชน ประชาธิปัตย์และคนอื่นที่เกาะกินรวบอำนาจและขูดรีดประชาชน ในเครือข่าย “คนรักเจ้า”

ข้อเสนอว่าสถาบันกษัตริย์ไทยทำให้เราอยู่เย็นเป็นสุข เป็นข้อเสนอที่เหลวไหลเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติเศรษฐกิจที่นำไปสู่การปฏิวัติ 2475 ไม่ว่าจะเป็นเผด็จการทหารที่ครองเมืองมานานพร้อมกับการโกงกินมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์นองเลือด 14 ตุลา 6 ตุลา พฤษภา 35 หรือวิกฤติการเมืองปัจจุบัน และไม่ว่าจะเป็นความเหลื่อมล้ำระหว่างคนจนคนรวยที่เห็นได้ชัดในสังคมไทย สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่ชี้ให้เห็นว่าสถาบันกษัตริย์ไม่มีประสิทธิภาพในการสร้างความอยู่เย็นเป็นสุขกับพลเมืองแต่อย่างใด คือเป็นอุปสรรคและกาฝากสังคมด้วย เพราะกษัตริย์ไม่ยอมปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชน ไม่ยอมห้ามคนที่เอาเปรียบประชาชน และเครือข่ายพระราชวังใช้งบประมาณจำนวนมากเพื่อประโยชน์ส่วนตน ทั้งๆที่งบประมาณส่วนนี้ควรจะนำมาสร้างรัฐสวัสดิการ

เครือข่ายเจ้าพร้อมที่จะให้ประชาชนหมอบคลานกราบตีน และใช้ราชาศัพย์พิเศษอันแสดงความเป็นเทวดาเหนือคนอื่น นี่คือพฤติกรรมของผู้ที่ไม่รู้จักบุญคุณของประชาชนและไม่รู้จักการเคารพพลเมืองทั้งปวงในรูปแบบประชาธิปไตย

ดังนั้นผมขอฟันธงว่า ในระบบประชาธิปไตยแท้ พลเมืองจะต้องจงรักภักดีและเคารพศักดิ์ศรีของเพื่อนพลเมืองด้วยกัน เราจะต้องไม่จงรักภัคดีต่อคนใดคนหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์ นายพล นายกรัฐมนตรี หรือ ประธานาธิบดี และไม่มีอะไรศักดิ์สิทธิ์นอกจาก

“สิทธิเสรีภาพ ประชาธิปไตย และความเสมอภาค”

นักการเมืองหรือนักวิชาการคนไหนที่พูดว่าเราต้องจงรักภักดีต่อกษัตริย์ในยุคนี้ต้องถือว่าไม่เข้าใจประชาธิปไตยอันแท้จริง


ใจ อึ๊งภากรณ์


ที่มา : Redsiam : ทำไมต้องจงรักภักดี?

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

พวกมันถือว่าฟ้าคุ้มกะลาหัว จักรภพ ทักษิณหมิ่นสถาบันอะไรสถาบันอีแพส(สะหยากะไอ้หงอกเปรมและไอ้สนธิผัวญาติอีแพสนะหรือ)แล้วไอสนธิเอาโกเต๊กไปถูพระบรมรูปทำไมมันไม่ว่าหมื่นสถาบันล่ะ นี่ไงล่ะสองมาตรฐาน ทางออกคนไทยมีสองทาง 1.รับบริจาคเงินคนรักความเป็นธรรม(แค่เสื้อแดงก็ไม่น้อยกว่า50000คนแล้ว)ผมป็นข้าราชการถือว่าช่วยชาติขอ
บรจาคซัก10000บาทเพื่อนๆสังคมข้าราชการหมือนกันบอกว่าอย่างน้อยให้เลยคนละ1000บาทไม่ใช่เอาไปก่อม้อบนะ แต่เอาไปจ้างมือปืนยิงหัวไอ้พวกก่อตั้งสถาบันใต้สะดือฟ้าหัวละล้านมือปืนคงรับน่ะ เสนียดแผ่นดินจะได้หมดไปซะทีไอเปรม สนธิ จำลอง สุริยะไส สมศักดิ์ อภิสิทธิ์ สุเทพ ฯลฯ ใช้งบไม่เกิน20ล้าน แผ่นดินไทยก็สงบสุขมีความยุติธรรมในสังคมบ้าง
2.ถ้าพวกสถาบันใต้กระโปรงฟ้ายิ่งใหญ่จนประชาชนแตะไม่ได้จริงเราก๊ควรจะแยกรัฐอิสระเหนือ-อีสานออกมาปกครองตนเองจะดีกว่าเชิญท่านทักษิณมาเป็นผู้นำ โดยไม่ต้องไปขึ้นกับพวกมัน ทรัพยากรเราอุดมสมบูรณ์เพียงพอ นก็ฉลาดกว่าเรื่องอะไรจะไปอยู่ภายใต้อำนาจของพวกปัญญาอ่อน สมองหมาปัญญาควาย